ดร.พลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชนกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย (Soft Power) สาขาอาหาร เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมบริการอาหารไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศ
ทั้งนี้ ต้องเรียนว่าอาหารไทย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมนูเลิศรส แต่ยังเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของไทย เป็นทูตวัฒนธรรมที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกเข้ากับเสน่ห์และเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ด้วยรสชาติที่หลากหลาย ความประณีตในการปรุง
และเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ ทำให้ครัวไทยเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในระดับสากลอย่างแท้จริง ดังนั้นเ พื่อต่อยอดจุดแข็งของประเทศในการเป็นแหล่งอาหารชั้นนำกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) จึงมุ่งที่จะสนับสนุนและผลักดันผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ให้มีความพร้อมและสามารถก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างมั่นคง
ผ่านการพัฒนาทักษะองค์ความรู้และการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันสู่ระดับสากล สอดรับกับการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาล ผ่านนโยบายเรือธงสำคัญ One Family One Soft Power (OFOS) โดยเฉพาะ อาหารซึ่งเป็น 1 ใน 11 สาขาเป้าหมายของประเทศไทย ที่มีศักยภาพสูงและโดดเด่น
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมดำเนินโครงการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ต่อเนื่อง 2 สาขา ประกอบด้วย
สำหรับกิจกรรมการเตรียมความพร้อมร้านอาหารซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปเปิดร้านในต่างประเทศ (DIPROM Thai Cuisine Gone Global) ถือเป็นการผลักดันให้อาหารไทยเป็นที่ยอมรับและสร้างรายได้ในระดับสากลนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศ เป็นกิจกรรมรอง ภายใต้โครงการหลัก การพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นอาหารไทยโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็น ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยที่มีความมุ่งมั่น และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการให้มีศักยภาพในการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ ผ่านการพัฒนาในด้านการบริหารจัดการธุรกิจ การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสากล
รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ เพื่อให้ร้านอาหารไทยสามารถเติบโตได้ อย่างยั่งยืนและเป็นที่รู้จักในระดับสากล โดยกิจกรรมดังกล่าว มีเป้าหมายร้านอาหารทั่วประเทศที่สนใจเปิดร้านในต่างประทศ มีร้านอาหารลงทะเบียนเข้าร่วมกว่า 50 ร้าน และผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในวงการอาหารและสาขาที่เกี่ยวข้องกว่า 5 ท่าน เหลือเพียง 10 ร้านอาหารไทยที่พร้อมจะก้าวสู่เวทีโลก
ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สถาบันฯได้รับมอบหมายจากดีพร้อมให้ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้ดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีกิจกรรมที่เริ่มตั้งแต่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เสริมศักยภาพร้านอาหารไทย สู่การขยายธุรกิจทั่วโลก เพื่อสร้างองค์ความรู้และเตรียมพร้อมผู้ประกอบการเพื่อไปเปิดร้านอาหารในต่างประเทศ กิจกรรมการให้คำปรึกษาเชิงลึก ด้านการบริหารจัดการร้าน การวางแผนการเงิน และการตลาด และกิจกรรมการสร้างการรับรู้และสรุปผลการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ โดยมีการจัดแสดงบูธผู้ประกอบการในงาน Thailand Retail, Food & Hospitality Services (TRAFS 2025) ปีที่ 19 วันที่ 24 - 27 ก.ค. 68 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค