นักวิชาการ หวัง ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ไม่ทำนโยบายการเงินแบบประชานิยมตามใจรัฐ

23 ก.ค. 2568 | 05:28 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2568 | 06:47 น.

อาจารเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรฯ “ชิดตะวัน ชนะกุล” ยังไม่คอมเม้นท์ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ “วิทัย รัตนากร” เพราะยังไม่ได้เริ่มงาน แต่หวังอย่านำนโยบายการคลังแบบประชานิยมมาใช้กับ "นโยบายการเงิน" ไม่เช่นนั้น เศรษฐกิจไทยอาจพังแน่นอน 

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในคณาจารย์ที่เคยลงนามคัดค้านการที่รัฐบาลจะเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ มาก่อนหน้านี้ เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ก.ค.68 เห็นชอบให้ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือ ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยจะมีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป 

 

อาจารย์ชิดตะวัน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความเห็นอะไรต่อนายวิทัย ในฐานะผู้ว่าธปท.คนใหม่ เพราะนายวิทัยยังไม่ได้เริ่มทำงาน แต่ส่วนตัวมีมุมมองในประเด็นที่น่ากลัวที่สุดคือ ประชาชนยังไม่เข้าใจความแตกต่างและวัตถุประสงค์ของนโยบายการเงิน  กับ นโยบายการคลัง เพราะหากธนาคารแห่งประเทศไทยนำนโยบายการเงินไปช่วยเหลือประชาชนกลุ่มรากหญ้ ประเทศจะพังแน่นอน

รศ.ดร.ชิดตะวัน อธิบายเพิ่มเติมว่า เพราะนโยบายที่ใช้ช่วยรากหญ้า หรือประชาชน คือ นโยบายการคลัง ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง  แต่ถ้านำนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย มาเป็นข้ออ้างช่วยรากหญ้าหรือประชาชน เศรษฐกิจของประเทศพังแน่นอน เพราะธนาคารเอกชนไม่ปล่อยกู้ให้คนรากหญ้า หรือประชาชนที่มีความเสี่ยงแน่นอน เว้นแต่รัฐบาลจะใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชนจำนวนมหาศาลอุ้ม

 

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 

"เนื่องจากสถาบันการเงินและธนาคารเอกชนมีวัตถุประสงค์แสวงหากำไรสูงสุด โดยหลักจึงไม่ปล่อยกู้ถ้าทำกำไรได้น้อย เว้นแต่รัฐบาลจะชดเชยส่วนต่าง เพื่อให้ทางธนาคารได้รับกำไรตามเป้าหมาย ซึ่งงบฯที่จะนำมาชดเชยส่วนต่างให้สถาบันการเงินหรือธนาคารเอกชนมาจากภาษีประชาชน ในทางกลับกันหากรัฐบาลต้องการช่วยประชาชนกลุ่มรากหญ้าให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน สามารถดำเนินการได้ผ่านธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐ อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ในลักษณะนโยบายกึ่งการคลัง โดยรัฐบาลก็มีหน้าที่นำงบประมาณมาชดเชยให้ได้" รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว

รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวถึงคุณสมบัติของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยว่า ต้องมีจุดยืน กล้าท้วงติงนโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ไม่ถูกไม่ควรและไม่เหมาะสม ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศในอนาคต ดังเช่น ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือแม้แต่ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน 

 

“ผู้ว่าแบงก์ชาติต้องไม่นำความลับเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงนโยบายสำคัญในเรื่องอื่นๆของ ธปท.ที่เป็นข้อมูลลับออกมาเปิดเผยจนเกิดความเสียหายต่อประเทศ เพราะยังมีนักการเมืองแสวงหาประโยชน์โดยใช้ข้อมูลลับจากธนาคารแห่งประเทศไทย ดังที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต” รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว