กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันจุดยืนของไทยในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเน้นย้ำว่าไทยได้ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดและจริงจังต่อเนื่อง เพื่อสกัดเครือข่ายอาชญากรรมที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาค โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์และการค้ามนุษย์ที่กลายเป็นปัญหาน่ากังวลระดับสากล
จากกรณีรายงานของ Amnesty International ซึ่งเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์และการหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา โดย นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนว่า อาชญากรรมข้ามชาติไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นปัญหาร่วมระดับภูมิภาคที่ต้องอาศัยการประสานความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด
โดยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นประธานการประชุมระดับสูงเพื่อติดตามความคืบหน้าและยกระดับมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ในระดับนโยบายของรัฐบาล
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้เร่งเดินหน้าดำเนินการหลายด้านอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดวงจรเครือข่ายอาชญากรรม การเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการผ่านแดน การสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินทุนผิดกฎหมาย และการใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ที่แฝงตัวอยู่ทั้งในประเทศและในรูปแบบข้ามพรมแดน
นายนิกรเดชยังระบุด้วยว่า ไทยยึดมั่นในการทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ เพื่อร่วมกันขจัดอาชญากรรมเหล่านี้ให้หมดไป โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในกรอบพหุภาคีต่างๆ ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ ทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันของประเทศในภูมิภาคและประชาคมโลก
นอกจากนี้ ไทยยังแสดงความพร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองเหยื่อค้ามนุษย์ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศในฐานะประเทศที่ไม่เพียงแต่เป็นผู้รับผลกระทบ แต่ยังเป็นแนวหน้าในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ