ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ อดีตรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งในผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ กล่าวถึงแนวคิดส่วนตัวต่อการดำเนินนโยบายการเงินว่า สิ่งที่อยากเห็นคือ การปรับบทบาทธนาคารกลางของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของเศรษฐกิจและสังคมไทยมากขึ้น
สำหรับแนวคิดหลักที่น่าสนใจในการบริหารงาน โดยประเด็นแรก เริ่มจากการ "revisit" หรือทบทวนบทบาทของธนาคารกลาง ซึ่งปัจจุบันเน้นไปที่เสถียรภาพเป็นหลัก แต่เห็นว่าธปท.ในฐานะหน่วยงานสาธารณะควรมีบทบาทที่กว้างขึ้น เพราะการมีเสถียรภาพอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ หากไม่สามารถนำไปสู่การพัฒนาได้
โดยเห็นว่าหน้าที่สำคัญของระบบการเงินคือการจัดสรรทรัพยากรการเงินให้เศรษฐกิจเกิดการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยให้คนได้รับประโยชน์จากการดำเนินนโยบายมากที่สุด เพราะไม่อยากเห็นแค่ว่าการรักษาเสถียรภาพสูง ตั้งสำรองสูง แต่ทุกคนร้องไห้ อย่างนี้คงไม่ถูกต้อง ซึ่งการตั้งสำรองของแบงก์ต่าง ๆ ควรเป็นไปเพื่อรองรับวิกฤตที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่ตั้งสำรองเพราะกลัวหนี้เสีย
ประเด็นที่สอง มองว่า การทบทวนการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือหน่วยงานสาธารณะด้วยกันในการทำนโยบาย และกลุ่มที่สองคือธนาคารพาณิชย์ โดยเน้นว่าในการทำงานต้องมีการหารือ ไม่ควรคิดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว และควรพิจารณาเรื่องการกำกับที่ดี ไม่ใช่แค่กำกับไม่ให้เกิดการผูกขาด แต่ต้องดูว่าจะช่วยสังคมอย่างไร
ส่วนประเด็นที่สาม คือ การทบทวนการทำงานของตัวเอง โดยต้องทำงานเพื่อสาธารณะ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่ควรต้องทำ
เมื่อพูดถึงความท้าทายภายในประเทศ ดร.สมประวิณ ระบุว่าปัญหาสำคัญว่า "ระบบสถาบันการเงินเข้มแข็ง แต่ระบบเศรษฐกิจไม่เข้มแข็ง แบงก์รอดแต่คนตาย อย่างนี้คงไม่ถูกอีกเช่นกัน" โดยส่วนตัวเห็นว่าควรให้สร้างกลไกที่ดูความหลากหลาย เนื่องจากคนในประเทศไทยมีความหลากหลาย และควรดูความเสี่ยงทุกระดับให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ก็เข้าใจเศรษฐกิจไทยได้ดี และได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด ขณะที่การไปอยู่ธนาคารก็เห็นภาคการเงิน ซึ่งภาคเศรษฐกิจจริงกับภาคการเงินก็เป็นสิ่งคู่กันไม่ได้ทำงานแยกกัน เพราะมีความสัมพันธ์กันต่อกัน และมีผลต่อเศรษฐกิจประเทศ ตัวอย่างเช่น ปัญหาหนี้ที่เป็นประเด็นสำคัญ เชื่อว่าต้องทำให้ทุกคนรู้สึกถึงปัญหาหนี้ และจะต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง” ดร.สมประวิณ ระบุ