นายเควิน เคลย์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแบรนด์ กาแล็กซี รีสอร์ต ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชนในประเทศไทยในประเด็น “เรียนรู้ความสำเร็จของมาเก๊า ในการบริหารจัดการ Entertainment Complex เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยในอนาคต”
โดยตอนหนึ่งถูกถามว่ามีคำแนะนำอย่างไรสำหรับรัฐบาลไทยในการสื่อสารกับประชาชนเกี่ยวกับการสร้างEntertainment Complex นายเควิน กล่าวว่า ประชาชนต้องรู้สึกสบายใจและเห็นด้วยก่อน และการจะทำให้พวกเขารู้สึกเช่นนั้น ต้องทำให้คนเข้าใจถึงขนาดของโอกาสทางการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาใน Entertainment Complex ต้องมีความเข้าใจว่าโครงการนี้จะมอบอะไรให้กับประชาชนไทย ทั้งในด้านขอบเขต และขนาดของผลประโยชน์ ต้องมีความเข้าใจในข้อจำกัดบางประการ
“โดยเฉพาะเกี่ยวกับกาสิโน เช่น ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าไปในกาสิโนได้ ไม่ว่าจะด้วยอายุ หรือเงื่อนไขต่างๆ เช่น ผู้ที่มีหนี้สิน หรืออยู่ในโครงการช่วยเหลือทางสังคม เป็นต้น”
นายเควิน กล่าวด้วยว่า ต้องการให้ธุรกิจนี้ดำเนินไปอย่างยั่งยืน และวิธีเดียวที่จะทำให้เกิดการดำเนินงานอย่างยั่งยืนได้ก็คือ การวางเงื่อนไขเพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนรู้สึกปลอดภัย และไม่ได้รับอันตรายจากการพนัน ดังนั้นเรื่องการป้องกันปัญหาการพนัน และการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในอุตสาหกรรมของเรา เราต้องการให้ประชาชนไทยเข้าใจว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี และเราอยากให้พวกเขารู้ว่า ถ้าเราจะมีธุรกิจที่ยั่งยืน เงื่อนไขเหล่านี้ต้องมีอยู่
ยืนยันว่าอุตสาหกรรมลงทุนอย่างมากในการควบคุมการพนันอย่างรับผิดชอบ และยังลงทุนอย่างมากในเรื่องการป้องกันการฟอกเงิน ทั้งในด้านเทคโนโลยี กระบวนการ และขั้นตอนต่าง ๆ เราก็เหมือนธุรกิจการเงิน ที่ทำธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้นในฐานะธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องมีความเข้มงวดในเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใส เราไม่ต่างจากธุรกิจการเงินที่ต้องรับผิดชอบในธุรกรรมต่าง ๆ ดังนั้นเราต้องการให้ประชาชนไทยเข้าใจว่า ถ้าเราจะลงทุนจำนวนมาก เราก็ต้องการวางเงื่อนไขทั้งหมดเหล่านี้ไว้ให้ชัดเจน
เควิน กล่าวอีกว่า ต้องการทำงานร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อวางเงื่อนไขเหล่านี้ให้ชัดเจน และให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัยในข้อตกลงนี้ และในขณะนี้ ยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง เพราะผู้คนอ่านแต่พาดหัวข่าว โดยไม่ได้รับรายละเอียดเชิงลึก
“ดังนั้นผมคิดว่ายิ่งเราสื่อสารรายละเอียดออกสู่สาธารณะมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี มากกว่าการปล่อยให้เกิดความเข้าใจผิด ผมคิดว่า มีข้อมูลที่บิดเบือนจำนวนมากถูกเผยแพร่ออกไปในตลาด อาจจะด้วยเหตุผลหลายอย่าง จากกลุ่มที่มีผลประโยชน์ต่าง ๆ ดังนั้นการนำเสนอข้อเท็จจริงให้กับประชาชนจะช่วยให้เข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้นและ Galaxy Resorts Thailand มีความสนใจอย่างมากที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น เราต้องการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลในการปิดช่องว่างของข้อมูลที่ยังขาดอยู่ในตลาด”
ถามว่า Galaxy Resorts เชื่อมั่นหรือไม่ว่าศูนย์บันเทิงในประเทศไทยจะประสบความสำเร็จมากขนาดไหน เควิน กล่าวว่า เราหวังว่าจะลงทุนหลายพันล้านในไทย และต้องเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จทั้งสำหรับประเทศ ประชาชน และผู้ถือหุ้นของเรา เราคิดว่าถ้ามีศูนย์บันเทิงจำนวนเหมาะสมในสถานที่เหมาะสม มันจะประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกฎหมายศูนย์บันเทิงด้วย ถ้ากฎเข้มเกินไป ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็จะลดลง ดังนั้นจึงสำคัญที่จะต้องรวมทุกกลุ่มผลประโยชน์และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาหารือกันและหาข้อตกลงเร็วๆ เพื่อทำให้สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับประเทศ ประชาชน และนักลงทุน
"บริษัทเสนอว่าในโครงการ Entertainment Complex พื้นที่ของกาสิโนควรน้อยกว่า 10% และควรอยู่ที่ราว 5% ของพื้นที่ทั้งหมด ที่เหลือ 95% ควรเป็นโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สถานจัดแสดง และอื่น ๆ แม้กาสิโนจะมีพื้นที่เพียง 5% แต่มันสร้างรายได้ถึง 80% ซึ่งสามารถนำไปสนับสนุนบริการอื่น ๆ ทั้งหมด เช่น คอนเสิร์ต ร้านอาหาร และกิจกรรมไม่เกี่ยวกับการพนัน ประเทศไทยมีตลาดการพนันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลย ไม่มีรายได้ ไม่มีงาน ไม่มีระบบดูแล ไม่มีการควบคุม แล้วทำไมถึงยังคัดค้านสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงปัญหานั้นให้เป็นโอกาส?”
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลได้มีการจัดงานเพื่อแถลงภาพรวมโครงการ Thailand Entertainment Complex เควิน กล่าวว่า ก็ทราบจากข่าวว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนโครงการอย่างมาก และมีความต้องการการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศ เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ และสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตของประเทศ รัฐบาลมีเป้าหมายในเรื่องของการส่งเสริมการการท่องเที่ยว โดยต้องการเพิ่มสัดส่วน GDP จาก 20% เป็น 30% และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 40 ล้านเป็นมากกว่า 50 ล้านคน รัฐบาลได้มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไว้แล้ว อย่างเช่นสนามบินใน กรุงเทพฯ ที่จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 150 ล้านคนภายในปี 2030 ซึ่ง Entertainment Complex เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแผนพัฒนานี้เท่านั้น
ส่วนคำถามที่ว่าแนวทางหรือเทคนิคใดที่ผู้ประกอบการสามารถช่วยสนับสนุนรัฐบาลในเรื่องการพนันอย่างรับผิดชอบได้ นายเควิน กล่าวว่า อย่างแรกเลย คุณต้องมีระบบการสื่อสารที่เหมาะสมก่อน และการสื่อสารนี้ไม่ได้หมายถึงแค่ถามว่า “คุณมีปัญหาการพนันหรือเปล่า” เท่านั้น แต่มันหมายถึงการสามารถระบุพฤติกรรมที่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาการพนันได้
ข้อที่ 1 คุณต้องฝึกอบรมพนักงานให้สามารถระบุผู้ที่มีความเสี่ยงได้ ข้อที่ 2 คุณควรติดสื่อประชาสัมพันธ์ไว้ทั่วบริเวณ เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนสังเกตพฤติกรรมของตัวเอง เช่น “คุณกำลังมีความเสี่ยงหรือเปล่า?” หรือ “สิ่งนี้คล้ายกับตัวคุณไหม?” พร้อมข้อมูลการติดต่อบริการช่วยเหลือต่าง ๆ และข้อที่ 3 ร่วมมือกับกลุ่มสังคมที่ให้บริการให้คำปรึกษาและการฟื้นฟู ทั้งสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมงและบริการด้านจิตสังคมอื่น ๆ
ทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยวิจัย กลุ่มชุมชน และรัฐบาล เพื่อสร้าง “ระบบนิเวศ” สำหรับการพนันอย่างรับผิดชอบ มันไม่ใช่แค่โซลูชันเดียว แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมแบบยั่งยืนที่ประกอบไปด้วยหลายองค์ประกอบ ในประเทศที่มี Entertainment Complex ได้มีการพัฒนาระบบมาแล้วกว่า 20 ปี ถ้าคุณไปที่มาเก๊า สิงคโปร์ หรือ ลาสเวกัส คุณจะเห็นระบบที่คล้ายกันหมด เพราะมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละประเทศร่วมมือกันพัฒนา เช่น มหาวิทยาลัยมาเก๊า ลาสเวกัส สิงคโปร์ เป็นต้น
ระบบนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูง มีการฝึกอบรม การสื่อสาร และบริการสนับสนุนที่เข้มแข็ง ซึ่งทั้งหมดนี้ควรเกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ เพราะตลาดการพนันในไทยมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าถ้ามี Entertainment Complex จะเกิดอะไรขึ้น นายเควิน กล่าวว่า รัฐจะมีรายได้มหาศาลจากภาษีการพนัน (เช่น 15%) เอกชนจะช่วยรัฐบาลสร้างระบบควบคุมการพนัน สร้างงานนับหมื่นงาน ดึงดูดนักท่องเที่ยว และ กระตุ้น GDP
เควิน กล่าวอีกว่า มีรายงานว่าประชากรผู้ใหญ่ในไทยประมาณ 60% เล่นการพนันเป็นประจำ 60% ใช่ไหม? มีรายงานว่ามูลค่าการพนันประมาณ 33 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไม่มีการสร้างงานเลย ไม่มีภาษีจากการพนัน ดังนั้นไม่มีอะไรกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวนคนที่ติดการพนันมีอยู่ถึง 6 ล้านคน หรือ 1 ใน 10 ของประชากรตอนนี้ เมื่อฝ่ายที่ไม่สนัยสนุนเราตอนนี้บอกว่า ไม่ต้องการ Entertainment Complex จะทำให้การพนันเพิ่มขึ้น ปัญหาการพนันเพิ่มขึ้น และเราไม่เชื่อโมเดลเศรษฐกิจนี้ แต่ผมบอกได้ว่า ถ้ามีภาษี 15% จะมีรายได้เข้ารัฐบาลเป็นพันล้านดอลลาร์ จะมีผู้ประกอบการศูนย์บันเทิงช่วยรัฐบาลสร้างโปรแกรมการพนันอย่างรับผิดชอบ และแก้ปัญหาคนติดการพนัน จะมีงานเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นตำแหน่ง จะมีการลงทุนหลายพันล้านในแหล่งท่องเที่ยว และ GDP จะเติบโตมาก
"ผมยังหาจุดที่เป็นปัญหาไม่เจอ Entertainment Complex จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาให้กับรัฐ เพราะประเทศไทยมีตลาดการพนันใหญ่ที่สุดตลาดหนึ่งในโลก ไม่มีงาน ไม่มีภาษี ไม่มีระบบสนับสนุน แต่มีปัญหาการพนันสูง และไม่ได้มีการวางมาตรการควบคุมอะไรเลย ดังนั้น Entertainment Complex ซึ่งเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมายและมีการควบคุมอย่างเข้มงวดที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น สามารถวางระเบียบเพื่อจัดการปัญหาที่มีอยู่และทำให้กลายเป็นประโยชน์กับประเทศได้"