นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าของเสียอันตราย เพื่อความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน นั้น กรมศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสินค้าที่เข้าข่ายของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล
โดยการดำเนินการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพและกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมการนำเข้าสินค้าของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบตู้สินค้าตกค้างระบุในใบตราส่งสินค้าเป็น ZINC CONCENTRATE จำนวน 36 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 736,425 กิโลกรัม ประเทศต้นทางโมร็อกโก
ทั้งนี้ สินค้ามีลักษณะเป็นผงละเอียดสีน้ำตาล มีกลิ่นฉุน บรรจุในถุงกระสอบ ตรวจสอบโดยเครื่อง X-ray fluorescence หรือ XRF พบปริมาณธาตุโลหะหลักเป็นสังกะสี 32.2% เหล็ก 13.5% และมีการปนเปื้อนของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว 1.24% แคดเมียม 890 ppm และพลวง 540 ppm
“เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน เพื่อป้องกันการถ่ายโอนของเสียอันตรายจากประเทศพัฒนาแล้วไปยังประเทศกำลังพัฒนา ตามอนุสัญญาบาเซล”
ขณะเดียวกัน กรณีนี้เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 บัญชีที่ 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ลำดับที่ 2.2 และอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด
สำหรับของเสียอันตรายดังกล่าว กรมศุลกากรจะผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันไม่ให้สินค้าอันตรายเข้ามาในประเทศ เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ สถิติการจับกุมการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก สังกะสีออกไซด์ ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 - 9 มิถุนายน 2568) แบ่งเป็น
โดยกรมศุลกากรจะบูรณาการความร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวและตรวจเข้มการนำเข้าส่งออกอย่างเคร่งครัดต่อไป