นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ กรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ กนอ. เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ISO 10002
ทั้งนี้ กนอ. ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลและการจัดการผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนและประชาชนจากการดำเนินงานของ กนอ.หรือผู้ประกอบการมาโดยตลอด จนสามารถยกระดับระบบการจัดการข้อร้องเรียนผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ISO 10002 (Quality management - Customer satisfaction - Guidelines for Complaints Handling in Organizations)
ซึ่งเป็นมาตรฐานว่าด้วยคุณภาพการบริหารจัดการข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริการและกิจกรรมขององค์กร เพื่อความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านคู่มือการปฏิบัติงานและกระบวนการจัดการข้อร้องเรียน (Complaint Handling Procedures) ที่มีการปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพและทันสมัยอยู่เสมอ
โดยการจัดการข้อร้องเรียนคือหัวใจสำคัญในการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อการดำเนินธุรกิจจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ลูกค้า และชุมชน ดังนั้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของ กนอ. หรือโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม จึงสามารถสอบถามรายละเอียดหรือแจ้งเรื่องได้อย่างมั่นใจ และเรื่องจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ
กนอ.ได้กำหนดนโยบายบริหารจัดการข้อร้องเรียน (Complaint Management) ครอบคลุม 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1.การรับข้อร้องเรียนและการอำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ร้องเรียน (Facilitate) ,2.การตอบรับและการตอบกลับ ข้อร้องเรียน (Respond) และ3.การแก้ไข ข้อร้องเรียน (Manage) ผ่าน 6 ช่องทางรับอรื่องร้องเรียนที่เข้าถึงง่ายและครอบคลุมทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ประกอบด้วย
สำหรับข้อร้องเรียนที่ส่งถึง กนอ. สามารถจำแนกออกเป็น 4 ประเภทหลัก คือ
"ทุกข้อร้องเรียนจะถูกบันทึกเข้าระบบ ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูล และจำแนกประเภทความเร่งด่วนภายในวันที่ได้รับเรื่อง เพื่อให้สามารถ ตอบกลับได้ภายใน 24 ชั่วโมง และดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน สำหรับกรณีไม่เร่งด่วน หากผู้ร้องเรียนยังไม่พึงพอใจ สามารถยื่นอุทธรณ์ผลได้ภายใน 30 วัน"
นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า กนอ. ยังให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลข้อร้องเรียนมาวิเคราะห์และประเมินผล เพื่อหาแนวทางการปฏิบัติงานเชิงป้องกัน (Preventive actions) และนำไปปรับปรุงทั่วทั้งองค์กร รวมถึงคู่ค้าและผู้ส่งมอบ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
และได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการ ติดตาม รายงานสถานะ และสรุปผลการจัดการข้อร้องเรียนอย่างเหมาะสม พร้อมตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ร้องเรียน ด้วยการจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานสากล