แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณ ได้สรุปจำนวนโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เสนอขอใช้งบประมาณภายใต้แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรืองบกระตุ้นเศรษฐกิจ กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท โดยล่าสุดมีโครงการเสนอเข้ามาจำนวนมาก รวมวงเงินกว่า 530,000 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนจากนี้สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะกลั่นกรองโครงการอีกครั้ง
“ตอนนี้มีข้อเสนอโครงการเข้ามาอย่างหลากหลายของทุก ๆ กระทรวง ส่วนมากเป็นโครงการด้านการลงทุนระยะสั้น เช่น โครงการด้านการบริหารจัดการน้ำ การก่อสร้างถนน โดยมีวงเงินรวมกว่า 530,000 ล้านบาท ซึ่งขั้นแรกจะกลั่นกรองโครงการลงให้เหลือเฉพาะโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนจริง ๆ ให้อยู่ภายใต้งบประมาณที่ได้รับการอนุมัติไว้จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี” แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าว กล่าวว่า จากการพิจารณาโครงการที่เสนอเข้ามาเบื้องต้นเห็นว่ามีโครงการที่อาจจะต้องถูกตัดหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เวลาในการดำเนินโครงการมาก และไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างเสร็จภายในปีงบประมาณ 2568 เพราะเป้าหมายของการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ จะเน้นโครงการระยะสั้นที่เห็นผล โดยต้องลงนามในสัญญาเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 และต้องสร้างเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2569
ส่วนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นการใช้จ่าย หรือการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศนั้น แหล่งข่าวกล่าวกับฐานเศรษฐกิจในเบื้องต้นพบว่ามีการเสนอเข้ามาเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในนั้นคือโครงการด้านการท่องเที่ยวที่จะช่วยจ่ายแบบคนละครึ่ง วงเงินประมาณ 3,500 ล้านบาท
ส่วนโครงการอื่น ๆ ที่เป็นการกระตุ้นการบริโภคอาจจะยังไม่ทำในตอนนี้ เพราะต้องดูความเหมาะสมว่า เมื่อทำแล้วต้องเป็นการกระตุ้นการบริโภคอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งทางคณะกลั่นกรองจะไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนต่อจากนี้หลังจากสำนักงบประมาณได้รับข้อเสนอโครงการจากหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว จะใช้เวลากลั่นกรองร่วมกับกระทรวงการคลัง และ สศช. ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2568 นี้ จากนั้นจึงสรุปรายละเอียดเสนอเข้าไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ต่อไป
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอโครงการมายังสำนักงบประมาณเรียบร้อยแล้ว หลายโครงการ คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 80,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นการลงทุนในพื้นที่ที่จำเป็นทั้งการลงทุนด้านน้ำ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วย
สำหรับรายละเอียดข้อเสนอโครงการ/มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (เบื้องต้น) ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม. ครอบคลุม 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
1.โครงสร้างพื้นฐาน
ด้านน้ำ : ป้องกันอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และกักเก็บน้ำไว้สำหรับฤดูแล้ง, กระจายน้ำไปยังชุมชนและพื้นที่ต่าง ๆ ผลิตเพื่อสนับสนุนภาคเกษตรในพื้นที่ทั่วประเทศ และการพัฒนา/ปรับปรุงระบบประปา
ด้านคมนาคม : แก้ไขปัญหาด้านการจราจรในพื้นที่ที่เป็นคอขวดและขาดความเชื่อมโยง, เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง, แก้ไขปัญหาจุดตัดระหว่างทางรถไฟและ ถนนเสมอระดับ, ก่อสร้าง/ปรับปรุงจุดพักรถบรรทุกเพื่อให้สามารถบังคับใช้ พ.ร.บ. ขนส่งทางบกฯ และปรับปรุง/พัฒนาถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่การผลิต
2.การท่องเที่ยว
ด้านการพัฒนาภาคการท่องเที่ยว : ปรับปรุง/พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สนามกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องน้ำ ห้องพัก สถานที่ ป้ายบอกทาง, พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกให้แก่ นักท่องเที่ยว, พัฒนาและยกระดับความปลอดภัยให้แก่ นักท่องเที่ยว อาทิ การติดตั้งระบบ CCTV ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ภายในประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ เมืองรอง
3.การลดผลกระทบภาคส่งออก และเพิ่มผลิตภาพ
ด้านการเกษตร : เพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร อาทิ การสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ SMEs ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และปรับเปลี่ยนพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม
ด้านการลดผลกระทบแรงงาน : สนับสนุนมาตรการการเงินการคลัง และสนับสนุนสินเชื่อ (เฉพาะผู้ส่งออก) เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน กองทุนประกันสังคม
ด้านดิจิทัล : พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และการค้าระหว่างประเทศ
4.เศรษฐกิจชุมชน และอื่น ๆ