มท. เร่ง อปท. ทำแผนของบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ภายใน 26 พ.ค. นี้

24 พ.ค. 2568 | 09:21 น.
อัปเดตล่าสุด :24 พ.ค. 2568 | 11:12 น.

มท. แจ้งทุกจังหวัด อปท. รวบรวมโครงการเสนอขอประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ภายใน 26 พ.ค.นี้ กำชับข้อเสนอทุกโครงการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ครม.

จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 68 ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งจะครอบคลุมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ เศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ ซึ่งทุกกระทรวงซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องต้องเสนอโครงการ ผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอตามขั้นตอนการกลั่นกรอง และเสนอต่อสำนักงบประมาณในคราวเดียวกันด้วยภายในเดือน พ.ค. 2568

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด ล่าสุดนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือแจ้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแจ้งผ่านไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั่วประเทศ ให้เตรียมการเสนอโครงการและคําของบประมาณเพื่อดําเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ การจัดสรรเพื่อการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามหนังสือได้กำหนดให้จังหวัดและส่วนราชการรวบรวมและจัดส่งคำเสนอโครงการมายังสำนักกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 26 พ.ค. 68 ซึ่งเป็นกรอบระยะเวลาที่ได้พิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม ทั้งส่วนหน่วยงานต่างๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้มีระยะเวลาพิจารณาโครงการที่เหมาะสมกับพื้นที่ ครอบคลุมและเป็นประโยชน์กับประชาชน ขณะเดียวกันหน่วยงานที่ทำหน้าที่กลั่นกรองสามารถมีเวลาในการพิจารณาตามขั้นตอนและเสนอโครงการได้ทันตามกรอบเวลาที่ ครม. กำหนด

นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้กำชับทุกหน่วยงาน และ อปท. ให้จัดทําข้อเสนอโครงการและคําของบประมาณ จะต้องยึดถือหลักเกณฑ์ตามที่ ครม. กำหนดโดยเคร่งครัด เพื่อให้เมื่อเสนอโครงการมาตามลำดับแล้วสามารถพิจารณากลั่นกรองได้ตามกรอบระยะเวลา เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจมากที่สุด รองรับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เดิมกระทรวงมหาดไทยได้ให้จังหวัดรวบรวมข้อมูลโครงการภายในวันที่ 23 พ.ค. 68 เพื่อที่คณะกรรมการ ระดับกระกรม และระดับกระทรวง จะได้พิจารณากลั่นกรอง ให้เป็นไปตามแนวทาง หลักเกณฑ์ที่ ครม. กำหนดไว้ แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิดจึงขยายเวลาออกไปเป็นวันที่ 26 พ.ค. 68 เพื่อให้แต่ละพื้นที่ได้พิจารณาโครงการที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่ ครอบคลุมทุกมิติและเป็นประโยชน์กับประชาชน