5 เคล็ดลับ "ขับรถหน้าฝน" จากรัฐบาล ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ

17 พ.ค. 2568 | 07:45 น.

รัฐบาลเปิด 5 เคล็ดลับสำคัญ "ขับรถหน้าฝน" แนะเตรียมความพร้อมก่อนขับขี่ในช่วงฤดูฝน ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย ๆ ทำได้กับตัวเอง

วันนี้ (17 พ.ค.2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลมีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็น "ขับรถหน้าฝน" ซึ่งเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าปกติ 

จากข้อมูลสถิติ โดยกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ระหว่างปี 2565-2567 ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม (ระยะเวลา 6 เดือน) มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมทั้งสิ้น 24,303 ราย หรือเฉลี่ยปีละ 8,101 ราย คิดเป็นเดือนละประมาณ 1,350 ราย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น รัฐบาลจึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการเตรียมความพร้อมก่อนการขับขี่ในช่วงฤดูฝน โดยยึดหลัก 5 ข้อปฏิบัติ ดังนี้

1.ตรวจสอบใบปัดน้ำฝน 

ควรตรวจสอบความพร้อมและปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้เหมาะสมกับความแรงของฝน เพื่อให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นขณะขับขี่มีความชัดเจนตลอดเวลา

2.ลดความเร็วขณะขับขี่ 

ควรลดความเร็วจากระดับปกติ โดยไม่ควรเกิน 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพื้นถนนที่เปียกจะทำให้ระยะเบรกเพิ่มขึ้นกว่าปกติ

3.เปิดไฟหน้ารถตลอดเวลา 

ควรใช้ไฟหน้าต่ำในขณะขับรถแม้ในเวลากลางวัน เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยและช่วยให้รถคันอื่นสามารถมองเห็นรถของเราได้ในระยะไกล ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

4.ตรวจสอบพยากรณ์อากาศ 

ก่อนออกเดินทาง ควรฟังหรือดูพยากรณ์อากาศจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อประเมินความเสี่ยงของสภาพอากาศในเส้นทางที่ใช้เดินทาง

5.ศึกษาเส้นทางล่วงหน้า 

ควรตรวจสอบเส้นทางและจุดที่มีปัญหาการจราจรหรือน้ำท่วมขัง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความล่าช้า

นางสาวศศิกานต์ กล่าว่า ทุกชีวิตบนท้องถนนมีค่า และอุบัติเหตุสามารถป้องกันได้ หากประชาชนให้ความร่วมมือในการเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศอาจเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ 

รัฐบาลขอแสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนทุกคน พร้อมยืนหยัดเคียงข้างในการสร้างมาตรการความปลอดภัยร่วมกัน เพื่อให้ทุกการเดินทาง “ปลอดภัย ถึงที่หมาย อย่างมั่นใจ” และเพื่อความสุขของครอบครัวคนไทยทุกครัวเรือน