บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ถก 19 พ.ค.นี้ ออกมาตรการรับมือภาษีสหรัฐ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 19 พ.ค.68 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทั้งนี้ ในที่ประชุมจะเสนอมาตรการทางการเงิน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้คณะกรรมการพิจารณา เพื่อรองรับนโยบายภาษีสหรัฐอเมริกา

โดยจะดูแล 6 ธุรกิจ ได้แก่ ผู้ส่งออกโดยตรงไปสหรัฐ ซัพพลายเชนของผู้ผลิตสินค้าส่งออก ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าจีน ภาคอสังหาริมทรัพย์ เอสเอ็มอีทั่วไป ธุรกิจท่องเที่ยว  ส่วนระยะสองจะช่วยเหลือภาคแรงงานหรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

สำหรับมาตรการทางการเงินนั้น ธนาคารออมสินจะออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ดอกเบี้ย 0.01% เพื่อให้สถาบันการเงินไปปล่อยต่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐอเมริกา วงเงิน 1 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้แบงก์รัฐพิจารณาลดดอกเบี้ยช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เช่น ลดอัตราดอกเบี้ย 20% ของวงเงินที่เคยเก็บ และให้แบงก์รัฐเปิดบ้าน เรียกลูกค้าส่งออกที่ได้รับผลกระทบเข้ามาหารือ เพื่อดูแลผลกระทบต่อไป 

ขณะเดียวกัน จะมีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ให้ดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งแบงค์พาณิชย์ขนาดใหญ่  5 แห่ง มีความแข็งแรง เชื่อว่าจะรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้ได้ ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ระหว่างพิจารณากรอบรายละเอียด

“เราจะไม่รอให้ครบ 90 วัน หรือวันที่ 9 ก.ค.68 ที่ครบกำหนดสหรัฐเลื่อนขึ้นภาษี แต่เราจะเตรียมมาตรการรับมือผลกระทบไว้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก ซึ่งมีความตั้งใจอยากให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ 3% แม้มีสถานการณ์ดังกล่าวเข้ามา เรามีมาตรการรับมือ เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น”

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า แบงก์รัฐได้รับโจทย์จากกระทรวงการคลัง ให้เตรียมมาตรการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐ ซึ่งออมสินได้เตรียมแนวทางช่วยเหลือลูกค้า โดยเปิดให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเข้ามาติดต่อแบงก์ ซึ่งเราจะลดอัตราดอกเบี้ยให้ 2-3% คาดเปิดรับภายใน 2-3 วันนี้ 

นอกจากนี้ ได้เตรียมซอฟต์โลนวงเงิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งเราจะปล่อยสินเชื่อ 0.01% เพื่อให้สถาบันการเงินไปปล่อยสินเชื่ออัตราต่ำ คาดว่าใกล้เคียงซอฟต์โลนก้อนที่ออกมาก่อนหน้านี้ ที่อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5% ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งหากได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป

สำหรับหลักการจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการชัดเจน 3 กลุ่ม ได้แก่

1. ธุรกิจส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา
2. ธุรกิจ Supply Chain
3. ธุรกิจผู้ผลิตสินค้าที่ต้องมีการแข่งขันสูงกับสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs ในภาพรวม 

“วงเงินการออกซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท เราใช้งบดุลของเรา ไม่ได้พึ่งพางบประมาณจากภาครัฐ ถือเป็นการช่วยเหลือสังคม และหากวงเงินไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็พร้อมพิจารณาขยายกรอบวงเงินเพิ่ม”