คลังเล็งเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) รายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้าน/ปี

12 พ.ค. 2568 | 23:12 น.

คลังศึกษาเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม รายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้าน/ปี หลังธุรกิจใช้ช่องกระจายรายได้ เลี่ยงจด VAT หวั่นจัดเก็บรายได้ต่ำเป้า จากผลกระทบภาษีสหรัฐ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานการณ์การจัดเก็บรายได้ และเตรียมหารายได้ใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 นี้ การจัดเก็บรายได้รัฐบาลมีความท้าทาย จากนโยบายตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐ 

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลัง ได้จัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปภาษีขึ้นมา เพื่อศึกษาทบทวนโครงสร้างภาษี โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้ศึกษาการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับผู้ที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจที่ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี

หลังจากที่พบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจจำนวนมากหลีกเลี่ยงการยื่นจดทะเบียนภาษี  VAT ซึ่งพยายามที่จะหาช่องทางกระจายรายได้เพื่อให้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องจดทะเบียน VAT 

“เราอยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องนี้ คาดว่าภายใน 1 เดือนจะได้ข้อสรุป เบื้องต้น กำลังดูว่า จะให้มีการจัดเก็บภาษี VAT แบบเหมาจ่ายดีหรือไม่ สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี เช่น 1.5 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะเป็นการจูงใจให้ผู้ที่รายได้เหล่านี้ ได้เข้าสู่ระบบ VAT มากขึ้น แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จะต้องพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง”

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมติเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร ตามกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 42) พ.ศ. 2568 กรมสรรพสามิต  ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลได้เพิ่มขึ้นราวเดือนละ 3,000 ล้านบาท หรือ 15,000 ล้านบาทตลอดทั้งปีนี้

“ยืนยันว่า การปรับอัตราภาษีน้ำมันครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมัน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดังกล่าว เป็นการปรับโครงสร้างภาษีน้ำมัน ให้กลับมาเป็นส่วนของภาษีมากขึ้น และลดเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง”

นายลวรณ กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากนโยบายตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐ ทำให้กระทรวงการคลังต้องปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงมาเหลือขยายตัว 2.1% จากเดิมที่คาดจะขยายตัวได้ 3% ซึ่งการลดลงของจีดีพีในระดับประมาณ 1% นั้น จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลหายไปประมาณ 1.7 แสนล้านบาท 

อย่างไรก็ดี ขณะนี้รายได้รัฐบาล 6 เดือน ยังเกินกว่าเป้าหมายประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แต่ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณนั้น ยังมีความน่าเป็นห่วงจากผลกระทบดังกล่าว