ยักษ์รถยนต์ค่ายยุโรป-จีนรุกลงทุน xEV ยกระดับยานยนต์ไทย

15 พ.ค. 2568 | 06:55 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2568 | 06:55 น.

บีโอไอเผยช่วง 3 ปี มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนในการผลิตรถยนต์ xEV และชิ้นส่วนกว่า 280,000 ล้านบาท ยักษ์รถยนต์ค่ายยุโรป-จีนรุกลงทุนยกระดับยานยนต์ไทย

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ (BOI) เปิดเผยในการสัมมนา BOI SYMPOSIUM: Shaping the Future of xEV in Thailand ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีผู้ผลิตชิ้นส่วนที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) กว่า 2,000 บริษัท และมีการจ้างงานกว่า 9 แสนคน 

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2565 – 2567) ความนิยมในรถยนต์ xEV ไม่ว่าจะเป็น BEV, PHEV และ HEV ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว จากยอดจดทะเบียนรถยนต์ xEV 84,500 คัน ในปี 2565 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 206,000 คัน ในปี 2567 โดยในส่วนของการลงทุน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนในการผลิตรถยนต์ xEV และชิ้นส่วน จำนวน 644 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 280,000 ล้านบาท  

ทั้งนี้ ภูมิทัศน์การค้าและการลงทุนโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ และห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ 

ซึ่งรัฐบาลไทยและบีโอไอได้ออกมาตรการสนับสนุนอย่างรอบด้าน สำหรับผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเดิม อาทิ มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร หรือนำระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 

ยักษ์รถยนต์ค่ายยุโรป-จีนรุกลงทุน xEV ยกระดับยานยนต์ไทย

รวมถึงการพัฒนาบุคลากร มาตรการส่งเสริมการร่วมทุน ระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างประเทศกับผู้ผลิตไทย เพื่อให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ มาตรการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับ HEV, MHEV และ PHEV และการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับผู้ซื้อรายใหญ่ในต่างประเทศ อย่างงาน SUBCON Thailand เป็นต้น เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ให้แข็งแกร่งและสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่หรือ xEV เพื่อคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ 

นายนฤตม์ กล่าวอีกว่า อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีหลากหลาย ซึ่งรัฐบาลและบีโอไอได้ออกมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และสามารถเสริมความแข็งแกร่งของไทยในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาค 

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้มีบทบาทมากขึ้นใน Supply Chain ระดับโลก ผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการไทย รวมถึงการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับบริษัทรถยนต์ระดับโลก เพื่อนำไปสู่การจัดซื้อชิ้นส่วนในประเทศ การถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือการร่วมทุนกันในอนาคต

นายมาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าทิศทางในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (future mobility) จะมุ่งสู่พลังงานไฟฟ้า ดิจิทัล และความยั่งยืน ดังนั้น บริษัทจึงมีการมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์สันดาปภายใน และช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100% ได้ 

โดยมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สถานีชาร์จและบริการหลังการขาย และยกระดับทักษะแรงงานรองรับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับ Supply Chain ในประเทศไทย

ยักษ์รถยนต์ค่ายยุโรป-จีนรุกลงทุน xEV ยกระดับยานยนต์ไทย  

“ต้องการให้ภาครัฐปรับเงื่อนไขในการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการที่เป็น Small Volume พร้อมเร่งเจรจา FTA ไทย - อียู เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและการส่งออกให้มากขึ้น”

นายเรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต คือเทคโนโลยีดิจิทัลและความยั่งยืน ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูถือเป็นพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ในปี 2025 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป กำลังมุ่งหน้าสู่หมุดหมายสำคัญด้วยการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารวมกว่า 1.5 ล้านคันทั่วโลก

นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะช่วยผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมและระบบนิเวศของ xEV โดยสนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยให้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มตลาด BEV ทั่วโลกเริ่มชะลอตัวลง ในขณะที่ตลาด HEV โตขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดในอาเซียน ซึ่งเห็นได้ชัดในไทย บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี HEV รวมถึงเตรียมแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยปลายปีนี้ ซึ่งรถกระบะ และอีโคคาร์ ถือเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนของไทยที่ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ตามการจะผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตที่แข็งแกร่งของ xEV จะต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการสร้างตลาดภายในประเทศให้แข็งแกร่ง รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ

นายสุโรจน์ แสงสนิท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี (MG) กล่าวว่า ตลาด xEV ไทยขยายตัวรวดเร็วและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้นโยบายมุ่งสู่ความยั่งยืน

นาย กวน ซิน รองประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้ม xEV ในตลาดโลกยังเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าการใช้ xEV ทั่วโลก จะมีสัดส่วน 40% ของการใช้รถยนต์ทั้งหมด ในปี 2028 ซึ่งรวมถึงตลาดในไทย 

“อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV, HEV และ PHEV ยังมีทิศทางเติบโต และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐ บริษัทจะมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ โดยเฉพาะในโรงงานที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานในต่างประเทศแห่งแรก และมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากร ถ่ายทอดเทคโนโลยี การใช้แรงงาน และชิ้นส่วนในประเทศเพื่อยกระดับไทยให้เป็นฐานผลิตที่แข็งแกร่งในอนาคต”