นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ยังต้องจับตาปัจจัยความคืบหน้าการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐฯ ว่ายังมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ หากยังดีต่อเนื่อง ต้องระวังการปรับตัวลงต่อของราคาทอง
แต่ทางกลับกันหากมีปัจจัยลบจากทั้ง 2 ฝ่าย เข้ามากระทบ อาจส่งผลให้นักลงทุนหันกลับมาเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำอีกครั้ง
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจ ยังคงให้ติดตามเรื่องการประกาศตัวเลข GDP ซึ่งคาดการณ์ว่าจะลดลงจาก 2.4 % ลงมาที่ 0.2 % และหากลดลงตามคาดการณ์จริงจะส่งผลเชิงบวกกับทองคำ ทั้งนี้การประกาศตัวเลข Nonfarm ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงจากเดิม 228K มาอยู่ที่ 130K หากลดลงตามคาดก็จะหนุนทองคำเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ฝ่ายกลยุทธ์ GCAP GOLD จึงแนะนำลงทุนทองคำในขณะนี้ โดยให้รอซื้อจังหวะที่ราคามีการย่อตัวแล้วเข้าซื้อ Gold Spot ที่ 3,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ / 3,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งในสัปดาห์นี้
หากราคาทองคำหลุดแนวรับ 3,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงไปจะเป็นการเปิดพื้นที่ด้านล่างให้ราคาลงไปที่ 3,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือลงได้ลึกถึง 3,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำให้ราคาทองไทยแตะที่ระดับ 51,500 บาท / 50,800 บาท
ทั้งนี้ หากราคาไม่หลุดที่ระดับ 3,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะเห็นการเด้งตัวกลับ โดยมีแนวต้านที่ 3,370 - 3,405 ดอลลาร์ต่อออนซ์ / 3,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองไทยประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 53,400 - 53,800 และ 54,500 บาท ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำไปแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเริ่มเห็นสัญญาณปรับตัวลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าอาจเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
หลังจากที่มีการรายงานว่าจีนกำลังพิจารณาระงับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ บางรายการ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ สารเคมีอีเทน และสัญญาเช่าเครื่องบิน ในอัตรา 125 % ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ได้ภายใน 3-4 สัปดาห์
"แม้ว่ายังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจากับจีนอยู่ก็ตาม ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวอ่อนลงอย่างมีนัยสำคัญ”