เปิดโผ 6 บริษัทยักษ์ระดับโลก สนใจประมูล "สถานบันเทิงครบวงจร" ในไทย

29 เม.ย. 2568 | 01:27 น.
อัปเดตล่าสุด :29 เม.ย. 2568 | 07:22 น.

IAG เผย 6 บริษัทระดับโลก พร้อมประมูลโครงการ Entertainment Complex ในไทย นำโดย GEG-Melco-MGM ขณะที่ 3 ราย Crown-Bally's-Peermont ถอนตัว เหตุเน้นตลาดในประเทศ

สถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ โครงการ Entertainment Complex ในไทยกำลังเป็นที่จับตามองจากผู้ประกอบการระดับโลก

 

ตามรายงานล่าสุดจาก Inside Asian Gaming (IAG) สื่อชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเกมและกาสิโนในเอเชีย ที่ได้ระบุและสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ 15 รายที่แสดงความสนใจหรืออาจมีแนวโน้มเข้าร่วมการประมูลใบอนุญาตสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ในประเทศไทย

ในช่วงที่รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างพิจารณากรอบกฎหมายสำหรับการพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจร เหล่าผู้ประกอบการชั้นนำระดับโลกต่างเริ่มวางแผนและแสดงท่าทีชัดเจนถึงความสนใจในตลาดไทย โดยหลายรายมีการเปิดสำนักงานในกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว

 

 

 

ความหลากหลายของผู้สนใจตลาดไทย

 

จากการศึกษาของ IAG พบว่าผู้ประกอบการที่ได้รับการติดต่อแบ่งเป็นกลุ่มหลักๆ ดังนี้

 

1. ผู้ได้รับสัมปทานมาเก๊า

  • Galaxy Entertainment Group (GEG), Melco Resorts และ SJM Resorts

 

2. ผู้ประกอบการเชื่อมโยงสหรัฐ-มาเก๊า

  • Sands China/Las Vegas Sands, MGM China/MGM Resorts และ Wynn Macau/Wynn Resorts

3. ผู้ประกอบการฟิลิปปินส์

  • Bloomberry Resorts Corp และ Newport World Resorts

 

4. กลุ่ม Genting

  • Genting Singapore และ Genting Malaysia

5. อื่นๆ

  • Crown Resorts (ออสเตรเลีย), Hard Rock และ Mohegan (เผ่าชนพื้นเมืองสหรัฐ), Bally's (สหรัฐ) และ Peermont (แอฟริกาใต้)

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกบริษัทที่แสดงความสนใจอย่างจริงจัง โดยมีบางรายที่ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันแล้ว ได้แก่ Crown Resorts, Bally's และ Peermont

 

โดยให้เหตุผลว่า กำลังมุ่งเน้นการดำเนินงานในประเทศของตนเป็นหลัก ส่วน Bally's ยังระบุเพิ่มเติมถึงการขาดความรู้เกี่ยวกับตลาดในภูมิภาคนี้เป็นอีกสาเหตุที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูล

 

 

6 ยักษ์ใหญ่พร้อมลุยตลาดไทย

 

จากการวิเคราะห์ของ IAG พบว่า มีผู้ประกอบการ 6 รายที่มีแนวโน้มจะเข้าร่วมการประมูลใบอนุญาตในประเทศไทยอย่างจริงจัง ได้แก่

 

1. Galaxy Entertainment Group (GEG) - มีความพร้อมสูงมากและได้เปิดสำนักงานในกรุงเทพฯ แล้ว โดยมองว่าประเทศไทยเป็น "หนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่น่าชวนใจที่สุดในโลก"

 

2. Melco Resorts & Entertainment - แสดงความสนใจอย่างชัดเจน โดย Lawrence Ho ประธานและซีอีโอ กล่าวถึงโอกาสในประเทศไทยว่าเป็น "โอกาสระดับยุค" และบริษัทได้จัดตั้งสำนักงานใหม่ในกรุงเทพฯ เช่นกัน

 

3. MGM Resorts (ผ่าน MGM China) - Bill Hornbuckle ซีอีโอ มองว่าไทยเป็น "ตลาดที่น่าทึ่ง" ที่มีศักยภาพในการสร้าง "อัตรากำไรที่อาจกว้างขวาง" โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและดำเนินงานที่ต่ำกว่า

 

4. กลุ่ม Genting (Singapore หรือ Malaysia) - ทั้งสององค์กรในเครือแสดงความสนใจ แต่ IAG คาดการณ์ว่าอาจมีเพียงหนึ่งในสององค์กรที่จะเข้าร่วมการประมูลในที่สุด

 

5. Wynn Resorts - Craig Billings ซีอีโอ ได้บ่งชี้ว่าบริษัทกำลังชะลอแผนการขยายธุรกิจในลาสเวกัส เพื่อรักษาเงินทุนสำหรับโอกาสในการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย

 

6. Hard Rock International - แสดงความสนใจทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต โดย Ed Tracy ผู้บริหารระบุว่าระดับความสนใจของบริษัทนั้น "โดยทั่วไปค่อนข้างสูง"

 

"Las Vegas Sands" ความหวังที่มาพร้อมกับความระมัดระวัง

 

Las Vegas Sands เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่ที่แสดงความกระตือรือร้นต่อโอกาสในตลาดไทย แต่ IAG มีข้อสังเกตว่า บริษัทเคยมีประวัติการถอนตัวจากกระบวนการประมูลรีสอร์ทโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของญี่ปุ่นอย่างกะทันหัน เมื่อรู้สึกว่าเงื่อนไขไม่สอดคล้องกับความคาดหวัง

 

จึงยังไม่แน่ใจว่าบริษัทจะเข้าร่วมการประมูลในประเทศไทยในที่สุดหรือไม่ หากพบว่าเงื่อนไขในกฎหมายฉบับสุดท้ายไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน

 

Patrick Dumont ประธานและ COO ของ Las Vegas Sands กล่าวถึงศักยภาพของประเทศไทยว่า "ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ไม่น่าเชื่อ มีคุณลักษณะที่น่าปรารถนามาก วัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม อาหารที่ยอดเยี่ยม และทิวทัศน์ที่สวยงาม มันเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการเยี่ยมชม และผมคิดว่ามันมีโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มรีสอร์ทจุดหมายปลายทางและสร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มากที่นั่น"

 

บทสรุป

 

บทสรุปจากรายงานนี้ของ IAG ชี้ให้เห็นว่า แม้ความสนใจในตลาดไทยอาจไม่ได้กว้างขวางเท่ากับกรณีของญี่ปุ่นในช่วงปี 2561-2562 ที่มีผู้ประกอบการมากกว่า 20 รายแสดงความสนใจ แต่ประเทศไทยยังคงได้รับความสนใจจากผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกในจำนวนที่น่าพอใจ โดยคาดว่าจะมีประมาณ 6 บริษัทที่จะเข้าร่วมการแข่งขันอย่างจริงจังเมื่อถึงเวลาประมูลใบอนุญาต