แพทองธาร สั่งคมนาคมดันเมกะโปรเจ็กต์บูมพื้นที่ 3 จังหวัดอีสาน

27 เม.ย. 2568 | 07:11 น.
อัปเดตล่าสุด :27 เม.ย. 2568 | 07:17 น.

นายกฯ แพทองธาร สั่งการกระทรวงคมนาคม ผลักดันเมกะโปรเจ็กต์ลงพื้นที่ 3 จังหวัดอีสาน “สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร” ทั้งบก ราง อากาศ ดันสู่ฮับเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง

วันนี้ (27 เมษายน 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชนในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) ให้เดินทางได้สะดวกครบทุกมิติ ทั้งทางอากาศ ทางถนน และทางราง ดังนี้

1. การคมนาคมทางอากาศ

เพิ่มเส้นทางการบินมายังท่าอากาศยานนครพนม และสกลนคร เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานมุกดาหาร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568

2. การคมนาคมทางราง

ดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ระยะทาง 355 กม. ให้เปิดบริการได้ในปี 2571 ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 3.8 ล้านคนต่อปีและรองรับปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 700,000 ตันต่อปี 

รวมถึงมีโครงการรถไฟสายใหม่ในอนาคต 3 โครงการ คือ ช่วงอุดรธานี - สกลนคร - นครพนม ระยะทาง 247 กม. ช่วงหนองคาย - บึงกาฬ - นครพนม ระยะทาง 316 กม. ช่วงมุกดาหาร - อำนาจเจริญ - อุบลราชธานี ระยะทาง 173 กม. เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงระบบขนส่งทางรางของประชาชน 

นอกจากนั้น ยังมีดำเนินการก่อสร้างศูนย์การขนส่งสินค้าชายแดนจังหวัดนครพนม ให้เปิดบริการได้ในปี 2568 เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทาง R12 เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างไทย สปป.ลาว เวียดนามและจีนตอนใต้ พร้อมทั้งรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งระหว่างทางถนนและทางราง ให้เป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ที่ให้บริการแบบ One Stop Service

3. การคมนาคมทางถนน

ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จหลายโครงการในจังหวัดนครพนม สกลนคร และมุกดาหาร รวมถึงมีโครงการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกกว่า 20 โครงการ เพื่อเสริมความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน

นายจิรายุ กล่าวว่า ในปี 2568 รัฐบาลได้ผลักดันเป็นปีทองแห่งการท่องเที่ยว พร้อมปรับรูปแบบเมืองรองการท่องเที่ยวเป็น “เมืองน่าเที่ยว” ทั่วไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 จังหวัด คือนครพนม สกลนคร และมุกดาหาร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวและประเพณี 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านสาธารณสุขในภาคอีสานตอนบน โดยได้อนุมัติจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อผลิตแพทย์ที่มีคุณภาพ รองรับความต้องการของชุมชนในภาคอีสานตอนบน และแก้ปัญหาความขาดแคลนแพทย์ของชุมชนด้วย

“รัฐบาลมีความตั้งใจในการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว คมนาคม และสาธารณสุข เพื่อสร้างความสะดวกสบาย คุณภาพชีวิตที่ดี สร้างรายได้ กระจายโอกาส และยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง” นายจิรายุ กล่าว