กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 มีมติเห็นชอบการทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 เรื่อง มาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักการของมาตรการภาษีรถยนต์โบราณ 3 เรื่องใหญ่ ประกอบด้วย
1.ยกเลิกการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตที่เหมาะสมและสอดคล้องกับอัตราอากรขาเข้าในประเภทที่ 06.03 รถยนต์กระบะ สำหรับรถยนต์โบราณ (Classic Cars)
2.แก้ไขประเภทรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ที่จะได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้า โดยเป็นสินค้ารถยนต์โบราณ (Classic Cars) ตามพิกัด 87.03 รถยนต์และยานยนต์อื่น ๆ ที่ออกแบบสำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก รวมถึงสเตชันแวกอนและรถแข่ง และพิกัด 97.06 โบราณวัตถุที่มีอายุเกิน 100 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับนิยามรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ที่กรมสรรพสามิตกำหนด
3.เพิ่มหลักการให้รถยนต์โบราณ (Cass Cars) ที่นำเข้าและมีการบูรณะภายในประเทศและส่งออกภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่ได้มีการนำเข้าสำเร็จมีสิทธิได้รับคืนภาษีเต็มจำนวนในกรณีส่งออกไปนอกราชอาณาจักรตามกฎหมาย
พร้อมทั้งอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565 โดยกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้ารถยนต์โบราณ (Classic Cars) ในอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 45 ของราคาขายปลีกแนะนำ
อีกทั้งยังเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ที่นำเข้ามาแบบสำเร็จรูปทั้งคัน (Completely Built Up: CBU) ตามที่กรมสรรพสามิตประกาศกำหนด
ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ทำหนังสือประกอบการพิจารณาเรื่องดังกล่าวของกระทรวงการคลัง โดยมีข้อสังเกตว่า งานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) จัดเป็นสินค้าที่มีกลุ่มตลาดเฉพาะสำหรับผู้มีความชื่นชอบงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) รวมถึงเป็นการสะสมความมั่งคั่งได้อีกรูปแบบหนึ่ง
ดังนั้น การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์โบราณ (Classic Cars) และการคืนภาษีสรรพสามิตเต็มจำนวนสำหรับรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ที่นำเข้ามาและมีการบูรณะภายในประเทศแล้วส่งออกไปนอกราชอาณาจักรภายในระยะเวลา 2 ปี นั้น
กระทรวงการคลัง ควรพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่ได้กำหนดเกี่ยวกับหลักการยกเว้นภาษีไว้ โดยเนื้อหาสาระของมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ระบุว่า การจัดเก็บรายได้แผ่นดินที่เป็นภาษีอากร จะกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย และการยกเว้นหรือการลดภาษีอากรใด จะกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ให้อำนาจจัดเก็บภาษีอากรนั้น
ทั้งนี้ ให้พิจารณาถึงความเป็นธรรม ความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งการพัฒนาและสนับสนุนเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย โดยในการเสนอยกเว้นหรือลดภาษีอากรตามวรรคหนึ่งต่อผู้มีอำนาจอนุมัติ ให้หน่วยงานของรัฐผู้เสนอจัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการยกเว้นหรือลดภาษีอากรด้วย
พร้อมกันนี้ สศช. ยังเสนอด้วยว่า กระทรวงการคลังควรดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล เพื่อส่งเสริม ความยั่งยืนทางการคลัง
นอกจากนี้ ในการดำเนินมาตรการทางภาษีดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดทำประมาณการสูญเสียรายได้จากอากรศุลกากรที่คาดว่าจะเก็บได้จากการนำเข้ารถยนต์โบราณ เทียบกับกรณีไม่มีการดำเนินมาตรการให้ครบถ้วน เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27 และมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ต่อไป