วันนี้ (22 เมษายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยภายหลังการประชุมเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ 2568 และเงินกันไว้เหลื่อมปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า นายกฯ ได้เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะการขับเคลื่อนงบลงทุนในปี 2568
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้ติดตามความก้าวหน้าสถานะการดำเนินงานรายจ่ายลงทุนเป็นการเฉพาะ ซึ่งไม่รวมงบกลาง โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 พบว่า มีวงเงินงบประมาณรายการรายจ่ายลงทุนของหน่วยรับงบประมาณที่ได้ดำเนินการก่อหนี้แล้ว 82,645 รายการ จาก 102,648 รายการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 526,135 ล้านบาท คิดเป็น 72.93% ของงบประมาณรายการรายจ่ายลงทุน สูงกว่าเป้าหมาย ตามมติครม. 22 ต.ค.2567 ที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 66%
ส่วนที่เหลือพบว่ายังไม่ก่อหนี้ผูกพัน จำนวน 20,003 รายการ วงเงินงบประมาณ 195,332 ล้านบาท คิดเป็น 27.07% ของงบประมาณรายการรายจ่ายลงทุน
ขณะที่เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 2 ข้อมูลผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ 28 มีนาคม 2568 วงเงินทั้งสิ้น 275,000 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายและก่อหนี้ผูกพันเงินกันฯ แล้ว 239,418 ล้านบาท คิดเป็น 87.06% คงเหลือ 35,582 ล้านบาท คิดเป็น 12.94%
อย่างไรก็ดี จากการติดตามสถานะการดำเนินงานเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2568 พบว่า มีงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแล้วเสร็จ รวมกับงบประมาณที่ก่อหนี้ผูกพันแล้ว 14,675 ล้านบาท คิดเป็น 41.24% ส่งผลให้วงเงินงบประมาณที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกพันหรืออยู่ระหว่างดำเนินการคงเหลือ 19,759 ล้านบาท คิดเป็น 55.53% และเป็นเงินเหลือจ่าย 1,146 ล้านบาท คิดเป็น 3.23%
นอกจากนี้ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2569 จะยังคงปรับปรุงรายละเอียดเพื่อรองรับสถานการณ์กำแพงภาษีสหรัฐฯ หรือไม่ ผอ.สำนักงบฯ ระบุว่า การจัดทำงบประมาณปี 2569 ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนรายละเอียดอะไร