"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

28 ก.พ. 2568 | 13:50 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2568 | 14:02 น.

"ฐานเศรษฐกิจ" และ "กรุงเทพธุรกิจ" สร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 รางวัล "ป๋วย อึ๊งภากรณ์" ประจำปี 2567 จากบทความเชิงวิเคราะห์คุณภาพ เจาะลึกวิกฤตเศรษฐกิจ ภาษี VAT และนอมินี

วันนี้ (28 ก.พ.68) ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ มีการมอบรางวัลบทความข่าวเชิงวิเคราะห์ (ลับคมความคิด) ประจำปี 2567 จาก รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย

โดยปีนี้สื่อชั้นนำด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย ในเครือเนชั่นกรุ๊ป "ฐานเศรษฐกิจ" คว้ามาได้ 1 รางวัล และ "กรุงเทพธุรกิจ" 3 รางวัล

 

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

 

ฐานเศรษฐกิจ ได้รางวัลที่ 2 กับบทความข่าวเชิงวิเคราะห์ เรื่อง "ความท้าทายประเทศไทย: เศรษฐกิจตกอันดับอาเซียน ปิดประตูสู่ประเทศพัฒนาแล้ว" เขียนโดย นายวสวัตติ์ โอดทวี หัวหน้าข่าวเศรษฐกิจนโยบาย ฐานเศรษฐกิจ

สำหรับเนื้อหาโดยสรุปของบทความ "ความท้าทายประเทศไทย: เศรษฐกิจตกอันดับอาเซียน ปิดประตูสู่ประเทศพัฒนาแล้ว" จากความยาวทั้งหมด 5 หน้า A4 บอกเล่าถึงเศรษฐกิจไทยที่เสี่ยงร่วงอันดับ 4 อาเซียน โดยระบุว่า

ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลัง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าในปี 2571 ไทยจะสูญเสียตำแหน่งประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน ตกลงไปอยู่อันดับ 4 โดยถูกฟิลิปปินส์และเวียดนามแซงหน้า ขณะที่อินโดนีเซียยังคงครองตำแหน่งอันดับ 1

 

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

แม้ประเทศไทยจะมีเป้าหมายก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง และมุ่งสู่ประเทศพัฒนาแล้วตาม ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) แต่ตัวเลขจาก IMF สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ เนื่องจากไทยมี อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำที่สุดในภูมิภาค โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.75% ต่อปี ในช่วงปี 2567-2572 ขณะที่ฟิลิปปินส์และเวียดนามเติบโต 5-6% ต่อปี ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน

 

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

 

สัญญาณเตือนวิกฤตเศรษฐกิจไทย

IMF วิเคราะห์ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย ได้แก่

1. การเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ

  • ในปี 2567 ไทยยังคงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยมีขนาด GDP 5.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีอัตราการขยายตัวเพียง 2.8% ต่ำสุดในภูมิภาค
  • ฟิลิปปินส์และเวียดนามแม้มี GDP ใกล้เคียงกันที่ 4.7 - 4.68 แสนล้านดอลลาร์ แต่กลับเติบโตสูงถึง 5.75% และ 6.06% ตามลำดับ
  • ภายในปี 2571 ไทยจะถูกแซง โดยฟิลิปปินส์และเวียดนามขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ด้วย GDP 6.49 และ 6.29 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ไทยตกไปอยู่อันดับ 4 ด้วย GDP 6.24 แสนล้านดอลลาร์ และขยายตัวเพียง 2.69%

2. การลงทุนต่ำสุดในอาเซียน

  • อัตราการลงทุนต่อ GDP ของไทยอยู่ในระดับต่ำสุดในภูมิภาค เพียง 21.98% ในปี 2567 และคาดว่าจะลดลงเหลือ 20.71% ในปี 2572
  • ขณะที่เวียดนามมีอัตราการลงทุนสูงถึง 32-33% และอินโดนีเซียอยู่ที่ 30% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงสูงกว่าไทย

3. ความสามารถในการแข่งขันลดลง

  • อัตราการเติบโตของการส่งออกสินค้าและบริการของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4% ต่อปี โดยในปี 2569 ต่ำสุดที่ 2.78% ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 3.3% ในปี 2572
  • ขณะที่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย มีอัตราการส่งออกเติบโตสูงถึง 6-10% ต่อปี
  • ปัจจัยหลักคือไทยยังคงพึ่งพาอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่น การเกษตรและการผลิตที่ใช้แรงงานเข้มข้น ขณะที่ประเทศคู่แข่งมุ่งเน้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรม

4. ภาระหนี้สาธารณะสูง

  • ไทยมีสัดส่วนหนี้สาธารณะสูงถึง 65-66% ของ GDP รองจากมาเลเซียที่มีหนี้อยู่ที่ 68-69%
  • ขณะที่เวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีหนี้สาธารณะเพียง 30-40%
  • ระดับหนี้ที่สูงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการลงทุนของภาครัฐ และเพิ่มภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในอนาคต

5. รายได้เฉลี่ยต่อหัวเติบโตช้า

  • รายได้ต่อหัวของคนไทยอยู่ที่ 7,527 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 9,271 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2572
  • แต่ยังต่ำกว่าประเทศอื่นในอาเซียน เช่น มาเลเซียที่มีรายได้ต่อหัว 13,142 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 17,591 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2572

 

แนวทางเร่งด่วนเพื่อฟื้นเศรษฐกิจไทย

นักวิเคราะห์แนะนำว่า หากไทยต้องการรักษาสถานะทางเศรษฐกิจและแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน จำเป็นต้องดำเนินมาตรการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน ได้แก่

1. ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เร่งลงทุนใน อุตสาหกรรมสมัยใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานสะอาด และ EV และต้องส่งเสริม การวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

2. สร้างแรงจูงใจในการลงทุน ด้วยการปรับปรุง ระบบภาษีและกฎระเบียบ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมกันนี้ต้องเพิ่มการลงทุนใน โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และระบบโลจิสติกส์

3. พัฒนาทักษะแรงงานและการศึกษา ด้วยการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อพัฒนาทักษะแรงงาน

4. บริหารจัดการหนี้สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้นโยบายประชานิยมที่เพิ่มภาระทางการคลัง เน้นการลงทุนในโครงการที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว

แนวโน้มการร่วงลงจากอันดับ 2 ไปสู่อันดับ 4 ของเศรษฐกิจอาเซียน ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลข แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องเร่งแก้ไข หากไทยยังเดินหน้าด้วยโมเดลเศรษฐกิจเดิม พึ่งพาแรงงานราคาถูกและการส่งออกสินค้าเกษตร โดยไม่มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ อาจทำให้ไทยไม่เพียงแค่สูญเสียสถานะผู้นำเศรษฐกิจในภูมิภาค แต่ยังปิดโอกาสสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วตามที่ตั้งเป้าไว้

 

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

 

นอกจากฐานเศรษฐกิจแล้ว สื่อในเครือเนชั่นอย่าง “กรุงเทพธุรกิจ” สามารถคว้ารางวัลที่ 1 กับบทความเรื่อง "ขึ้น VAT สกัดวิกฤติการคลัง" บันไดขั้นแรกของการ ปฏิรูปภาษี ทำอย่างไรให้คนไทยได้รับประโยชน์สูงสุด เขียนโดย นายนครินทร์ ศรีเลิศ (กรุงเทพธุรกิจ)

ที่วิเคราะห์นโยบายการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งเป็นมาตรการที่ภาครัฐเสนอเพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศและจัดการกับภาวะวิกฤติทางการคลังของไทย พร้อมทั้งเสนอแนวทางเพื่อให้การปฏิรูปภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อประชาชนกลุ่มเปราะบาง

 

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

 

รางวัลที่ 3 "เปิดปฏิบัติการ สางปัญหานอมินี อาชญากรทางเศรษฐกิจ ทำลายประเทศ" เขียนโดย นางสาวประภาศรี โอสถานนท์ (กรุงเทพธุรกิจ)

บทความนี้นำเสนอปัญหาการใช้ นอมินี (Nominee) ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเปิดช่องให้เกิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันทางธุรกิจและความมั่นคงของประเทศ พร้อมเผยแพร่แนวทางป้องกันและบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิด

 

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

 

รางวัลชมเชย "รัฐควักเงินอุ้มสถานะ ‘สายการบินแห่งชาติ’" เขียนโดย นางสาววรรณิกา จิตตินรากร (กรุงเทพธุรกิจ)

บทความนี้นำเสนอประเด็นการช่วยเหลือทางการเงินของภาครัฐต่อสายการบินแห่งชาติ เพื่อรักษาสถานะของอุตสาหกรรมการบินที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการอุดหนุนเงินภาษีประชาชน

 

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์

"ฐานเศรษฐกิจ-กรุงเทพธุรกิจ" คว้า 4 รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์