“กลุ่มสามารถอยู่คู่ประเทศไทยมากว่า 60 ปีเปลี่ยนแปลงเยอะมาและทรานฟอร์มมาโดยตลอดเมื่อก่อนเห็นสามารถมีเสาอากาศ จานดาวเทียม ไอโมบาย อยู่แบบเดิมไม่มีกลุ่มสามารถ เรามาทางด้านเทคโนโลยีต้องปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปีนี้ กลุ่มสามารถ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์พลิกโฉมตัวเองใหม่ ใหญ่ และ ยาว” นั่นคือคำให้สัมภาษณ์ของ นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น
นายวัฒน์ชัย เปิดเผยว่า ในปี 2025 กลุ่มสามารถ ตั้งเป้าปีนี้เป็นปีแห่งการพลิกโฉมธุรกิจ สู่ความยั่งยืน หรือ Year of Reinvention เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และ การสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ ปีนี้จึงตั้งเป้ารายได้ระยะยาวไว้ 5 ปี จำนวนทั้งสิ้น 73,997 ล้านบาท ดังนี้
สำหรับ บมจ.สามารถเทลคอม หรือ SAMTEL มีบริษัทภายใต้การดำเนินงานของ 3 สายธุรกิจ ได้แก่ 1.สายธุรกิจ Network Solutions ให้บริการโซลูชันครบวงจรด้านโครงข่ายพื้นฐานสื่อสารความเร็วสูง 2. Enhanced Technology Solutions โซลูชั่นครบวงจรที่ผสมผสานเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และ 3. Business Applications แอปพลิเคชันที่สนับสนุนด้านการประกอบธุรกิจด้วยซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นชั้นสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของลูกค้า ปัจจุบันมีงานอยู่ในมือแล้วมูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2025 อยู่ที่ 6,500 ล้านบาท มั่นใจว่าปีนี้สายธุรกิจ ICT จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 40 % ด้วยโอกาสจากหลายโครงการที่เลื่อนมาจากปีที่แล้ว ประกอบกับโครงการใหม่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ จากภาครัฐ รวมถึงนโยบายบูรณาการด้านเทคโนโลยี เพื่อต่อยอดการให้บริการด้านต่าง ๆ คาดว่าในปีนี้ จะมีโครงการใหม่ ๆ ที่จะเข้าร่วมประมูล ทั้งโครงการรูปแบบ Outsource Services ขนาดใหญ่หลักหมื่นล้านบาท
และโครงการเป้าหมาย มูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาท โดยจะเข้าร่วมประมูลระบบด้านการเงินและการธนาคาร เช่น Core Banking Solutions และ e-Payment Solutions และ บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง ของธนาคารออมสิน และ ธอส. เป็นต้น รวมทั้งเข้าร่วมประมูลโครการหน่วยงานรัฐภาคใต้ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม วิทยุการบิน การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สาธารณูปโภคไฟฟ้า เช่น AMR, AMI และ Smart Meter เป็นต้น
ขณะที่ บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น ตั้งเป้ารายได้ที่ 6,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 9 % ด้วยโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน โดยเฉพาะ บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาภายใต้ CATS คาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 8% ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจการบินเริ่มขยายตัวเต็มที่หลังวิกฤตโควิด รัฐบาลกัมพูชามีนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยช่วงปลายปี 2024 ได้มีการเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ ดาราสาคร ที่เกาะกง และภายในปีนี้จะมีการเปิดสนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ คาดว่าปีนี้จำนวนผู้โดยสารอาจมีมากถึง 7 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเที่ยวบินโดยรวมเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 แสนเที่ยวบิน ซึ่งจะส่งผลให้ SAV มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่เป็นบวกอย่างโดดเด่นในปีนี้
ธุรกิจด้าน Power Construction & Services โดยบริษัทเทด้าและทรานเส็ค มีงานในมือปัจจุบันรวม กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ยังมีแผนรุกเข้าสู่การให้บริการ upgrade สถานีไฟฟ้าแบบเดิมให้เป็น Digital Substation ด้วย โดยมีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆในปีนี้กว่า 3,000 ล้านบาท , ด้าน โครงการ Direct Coding ปัจจุบันยังเหลือสัญญาอีก 5 ปี เฉลี่ยรายได้ปีละกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทยังมีแผนที่จะขยายฐานธุรกิจบริการระบบพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ หรือ Direct Coding ไปสู่การจัดเก็บภาษีสินค้าอื่นๆ อาทิ ยา อาหารเสริม น้ำมัน และ Soft Drink อีกด้วย