เปิดแผนระบายน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา รับมือฝนตกหนักระลอกใหม่

31 ส.ค. 2565 | 21:59 น.

กรมชลประทาน เปิดแผนเตรียมการปรับเพิ่มการระบายน้ำ หลังกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากประเมินจะเกิดฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 3-8 ก.ย. 2565 ไปดูกันว่า แผนรองรับสถานการณ์เป็นยังไง พร้อมรับมือปริมาณน้ำได้แค่ไหน

จากกรณี กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศ ฉบับล่าสุด  เรื่องเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักระหว่างวันที่ 3-8 กันยายน 2565 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

 

ล่าสุด นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้เตรียมการปรับเพิ่มการระบายน้ำให้สอดคล้องกับประกาศฉบับดังกล่าว โดยคาดว่า จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์อยู่ในเกณฑ์ 2,000-2,200 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที 

การปรับเพิ่มการระบายน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา

 

ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอยู่ในเกณฑ์ 1,800-2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวันที่ 30 สิงหาคม 2575 ปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 1,649 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยจะทยอยปรับให้ไปอยู่ที่ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ในวันที่ 1 กันยายน 2565 นี้ และประสานกับจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิดในการแจ้งเตือนประชาชน

 

“ขณะนี้จะใช้การระบายผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก ซึ่งมีศักยภาพการระบายอยู่ที่ 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ปัจจุบันระบายอยู่ที่ 1,678 ลบ.ม.ต่อวินาที จึงมีช่องว่างการระบายน้ำออกทะเลอยู่อีกมาก และเป็นเส้นทางที่ตรงและเร็วที่สุด โดยไม่มีการระบายน้ำผ่านไปทางแม่น้ำบางปะกง หรือแม่น้ำท่าจีน ยกเว้นเพื่ออุปโภค บริโภคและรักษาระบบนิเวศน์เท่านั้น”

นายประพิศ ระบุว่า ล่าสุดยังได้ให้สำนักชลประทานทุกพื้นที่ประสานกับเกษตรกร เพื่อให้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ครบรอบการผลิตให้ทันต่อช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ให้บริหารสถานการณ์ไม่ให้มีผลกระทบต่อเกษตรกรหรือมีผลกระทบให้น้อยที่สุด

 

การปรับเพิ่มการระบายน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา

 

สำหรับในพื้นที่น้ำท่วมขังจากปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ต่าง ๆ โดยสั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล ระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำเพื่อช่วยเกษตรกร และประชาชนที่ประสบน้ำท่วมขัง ดังนี้

  • สำนักชลประทานที่ 4 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำท่วมขังในชุมชนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก  
  • สำนักชลประทานที่ 12 ได้เร่งสูบน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร ในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายางมณี อ.เมืองอ่างทอง และที่จังหวัดปราจีนบุรี 
  • สำนักชลประทานที่ 9 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง สูบน้ำท่วมขังบริเวณโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังจากฝนตกต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นเข้าท่วมพื้นที่ 
  • สำนักชลประทานที่ 11 ปทุมธานีได้มีการตรวจสอบความพร้อมในการใช้งานของสถานีสูบน้ำ และให้พร่องน้ำในคลองสาขาเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนในระยะต่อไป

 

การปรับเพิ่มการระบายน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา

 

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชชัย รองอธิบดีกรมชลฯในฐานะโฆษกกรม กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกสะสมในบริเวณจังหวัดลำปาง แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่อง

 

โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ 1,846 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 3.65 เมตร ก่อนที่จะไหลไปร่วมกับปริมาณน้ำที่มาจากสะแกกรังและลำน้ำสาขาสู่เขื่อนเจ้าพระยา 

 

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะมีการทยอยปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไปจนถึงเกณฑ์ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ในช่วง 11.00 น. ของวันที่ 1 กันยายน 2565 ซึ่งจะกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำในพื้นที่อ.เสนา ต.ลาดชิด จ.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะมีระดับน้ำสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 20 เซนติเมตร