“สุพัฒนพงษ์” ยกคณะ ดึงซาอุดีอาระเบีย ลงทุนพลังงาน-ท่องเที่ยวไทย

27 ก.ค. 2565 | 04:44 น.

รองนายกฯ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ยกคณะเยือนซาอุดีอาระเบีย กระชับความสัมพันธ์ พร้อมหาช่องทางความร่วมมือลงทุน ท่องเที่ยว เกษตร พลังงานในประเทศไทย

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย และคณะรัฐบาล ได้เดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบีย 

 

ทั้งนี้ในช่วงเช้าของวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ได้เข้าพบและประชุมหารือร่วมกับ นายคาหลิด อับดุลอะซีซ อัลฟาลิฮ์ กระทรวงการลงทุนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และในวันเดียวกัน ได้หารือกับเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล ซาอุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงความร่วมมือด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ระหว่างไทยและราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย 

รองนายกฯ นำคณะประชุมหารือ นายคาหลิด บิน อับดุลอะซีซ อัล ฟาลีฮ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

 

ประกอบด้วย ความร่วมมือและการลงทุนด้านพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน, ยานต์ยนต์ไฟฟ้า, การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการเกษตรยั่งยืน

 

โดยความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการตอบโจทย์การพัฒนาประเทศของซาอุดีอาระเบีย ภายใต้ยุทธศาสตร์ 2030 และเป็นการสร้างโอกาสในการขยายการลงทุนของไทยในซาอุดีอาระเบีย พร้อมทั้งได้เชิญชวนให้ซาอุดีอาระเบียมาลงทุนในไทยด้วย

 

ขณะเดียวกันยังได้มีการหารือถึงแนวทางการจัดตั้งโครงสร้างการทำงานร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ และขับเคลื่อนการดำเนินงานในทุกสาขาให้มีความต่อเนื่อง และสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

รองนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย หารือด้านการส่งเสริมการลงทุน

นอกจากนี้คณะยังหารือร่วมกับนายมูฮัมหมัด อบูเนย์ยัน ประธานกรรมการ ของ ACWA POWER ซึ่งเป็นผู้พัฒนา, ลงทุน, เจ้าของร่วม และผู้ดำเนินการกลุ่มผลิตภัณฑ์การผลิตไฟฟ้า โดยได้มีการหารือถึงโอกาสความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ในการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตพลังงานสะอาดของภูมิภาค

 

เช่นเดียวกับการร่วมลงทุนด้านพลังงานทดแทน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปีค.ศ. 2050