“กนก วงษ์ตระหง่าน”ชี้ 3 ปัจจัยลบทำเศรษฐกิจไทยยังฟื้นยาก

17 ก.ค. 2565 | 06:45 น.

“กนก วงษ์ตระหง่าน”ชี้ 3 ปัจจัยลบทำเศรษฐกิจไทยยังฟื้นยาก “จีนจีดีพีหดแรง-สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ-เศรษฐกิจโลกยังผันผวน” เชื่อไทยยังลำบาก ลากยาวอีกเป็นปี วอนชะลอความขัดแย้งทางการเมือง มุ่งแก้ปากท้อง ประชาชนก่อน

ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ากรณีที่ไตรมาส 2 ปีนี้ GDP จีนขยายตัวเพียง 0.4% ห่างจากเป้าที่ตั้งปี 2565 ที่ 5.5% สร้างความวิตกกังวลต่อประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่มากที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เมื่อเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับการถดถอยและเงินเฟ้ออยู่ และมาได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนเพิ่มขึ้นไปอีก ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีโอกาสที่จะถดถอยมากขึ้นไปอีก 


เมื่อนำปัจจัยผลกระทบจากสงครามยูเครนที่น่าจะลากยาว ทำให้ทุกคนวิตกต่อราคาน้ำมัน ราคาอาหาร และภาวะเงินเฟ้อที่สูงและคงอยู่ยาว ประเทศไทยและคนไทยจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างไร กับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีน 

ในขณะที่ไทยกำลังเปิดประเทศและคาดหวังว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศ จะเข้ามาช่วยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ คงจะต้องผิดหวังเพราะบรรยากาศและความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศยังต่ำ คนของเขาจึงเลือกที่จะไม่เดินทางออกนอกประเทศ รวมทั้งคนจีน ที่รัฐบาลจีนยังคุมเข้มเรื่องโควิดด้วยมาตรการห้ามการเดินทาง


ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ตลาดจีนเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของไทยทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม สินค้าส่งออกสำคัญสู่ตลาดจีน เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ยาง-ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เคมีภัณฑ์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น 

ถึงแม้นจะขยายตัวจากฐานปีที่แล้ว (2563/2564) แต่ยังต่ำกว่ามูลค่าการส่งออกช่วงก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด ดังนั้น การขยายตัวต่ำทางเศรษฐกิจของจีนจึงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยโดยตรง 


ในทางตรงกันข้าม ขณะที่เศรษฐกิจไทยเริ่มจะขยายตัว แต่สภาวะสงครามยูเครนและเศรษฐกิจโลกกลับสร้างปัญหาสำคัญให้กับไทย คือ ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสูง ราคาอาหารสูง ค่าไฟฟ้าสูง ค่าเดินทางสูง เรียกโดยรวมว่าค่าครองชีพที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในแต่ละวันสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและสูงกว่ารายได้ 


เมื่อรายจ่ายเพื่อการดำรงชีวิตสูงกว่ารายได้ คนไทยจึงต้องกู้เพื่อการทำมาหากินและการใช้ชีวิต สถาบันการเงินหรือธนาคารแทบจะปิดประตูสำหรับคนจนและผู้ประกอบการ SME จึงทำให้ชีวิตของคนจนหาเช้ากินค่ำยากลำบากยิ่งขึ้น

 

“จากวันนี้ไปจนถึงอย่างน้อยสิ้นปี 2565 คนไทยคงจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิตอีกมาก หวังเพียงแต่ว่ารัฐบาลจะเข้าใจและมีมาตรการที่จะบรรเทาความทุกข์ยากเหล่านี้ได้ และหวังว่าความขัดแย้งทางการเมืองจะบรรเทาและชะลอตัวออกไปก่อน เพื่อเร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชนนะครับ” ส.ส.บัญชรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวทิ้งท้าย