"กนอ." ผนึก "PRIME" ตั้งบริษัทรุกธุรกิจพลังงานทดแทน

23 มิ.ย. 2565 | 05:05 น.

"กนอ." ผนึก "PRIME" ตั้งบริษัทรุกธุรกิจพลังงานทดแทน มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หนุนนโยบายรัฐด้านแผนการพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME ในการร่วมลงทุนถือหุ้นบริษัทวิศวกรรมพลังงาน (ด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน)  เพื่อร่วมกันผลักดันการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานโดยใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทนในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ 

 

ทั้งนี้ กนอ.ได้กำหนดแนวทางเพิ่มค่าประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-Efficiency) เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้ได้ 2.5 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2e) ภายใน 5 ปี (2564-2568) หรือปีละ 500,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 

 

ซึ่งจะนำไปสู่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในรูปของก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางการเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Estate) และสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศ ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

โดยมีเป้าหมายสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่พลังงานสะอาด และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และ Net Zero Emission Carbon ในปี พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065) 

 

“ความร่วมมือครั้งนี้ขับเคลื่อนภายใต้ชื่อ บริษัท ไพร์ม อินดัสเทรียล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนของเครื่องจักร วัสดุ และอุปกรณ์ด้านพลังงาน รวมทั้งสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน (Renewable Energy) โดยการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการยกระดับการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการลดก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงาน รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศ” 

 

นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRIME กล่าวว่า PRIME เป็นบริษัทชั้นนำด้านการลงทุนในประเทศไทยที่มีความสนใจเป็นพิเศษในด้านพลังงานทดแทน โดยให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่ง PRIME มีความเชี่ยวชาญในด้านการก่อสร้าง การลงทุน การเงิน การธนาคาร การให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์แก่ภาคเอกชน ด้านกฎหมาย และพลังงาน 

 

วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

 

ขณะเดียวกัน PRIME มีประสบการณ์พัฒนาโครงการเรื่องพลังงานทดแทนมากกว่า 10 ปี ในหลายประเทศ และมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างระบบเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Model) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 5 ของ กนอ. ในการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในแผนการสร้างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580)

“PRIME จะเน้นลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในนิคมอุตสาหกรรม เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนอาคารสำนักงานนิคมอุตสาหกรรม การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม การนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและของเสียอุตสาหกรรมกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ สนับสนุนให้โรงงานเก็บสถิติก๊าซเรือนกระจกเบื้องต้น และขึ้นทะเบียนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO) เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”

 

สำหรับบริษัทฯ ที่ตั้งใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจวิศวกรรมพลังงาน มีทุนจดทะเบียนตั้งต้นที่ 100 ล้านบาท โดย กนอ.เป็นผู้ถือหุ้นในอัตราส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน และผู้ร่วมลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นในอัตราส่วน 75% ของทุนจดทะเบียน โดยจะเน้นภารกิจด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนแบบครบวงจร 

 

ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบโครงการ การเสนอโครงการ การขออนุญาตก่อนก่อสร้าง (ถ้ามี) การบริหารโครงการ การออกแบบทางวิศวกรรม วิเคราะห์การใช้พลังงาน ติดตั้งอุปกรณ์และดำเนินงานสำหรับโครงการอนุรักษ์พลังงานหรือพลังงานทดแทน การจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการด้านพลังงาน การติดตั้ง ตลอดจนการตรวจวัดเพื่อพิสูจน์ผลประหยัด

 

"กนอ." ผนึก "PRIME" ตั้งบริษัทรุกธุรกิจพลังงานทดแทน

 

อย่างไรก็ดี การดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน ประกอบด้วย 2 บริการ ได้แก่ 

 

1.ด้านวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้าง เป็นการให้บริการในลักษณะการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างโรงงานแบบครบวงจร (Integrated  EPC) ให้กับลูกค้า ซึ่งสามารถแบ่งส่วนของงานได้เป็น 3 ลักษณะ คือ งานออกแบบวิศวกรรม (Engineering) งานจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ (Procurement) และงานก่อสร้าง (Construction) 

 

2.ด้านโครงการอนุรักษ์พลังงานหรือพลังงานทดแทน จะมีรูปแบบการบริการ 3 แบบ คือ การรับประกันผลประหยัด (Guaranteed Saving) การแบ่งปันผลประหยัด (Shared Saving) และการประกันส่วนต่างค่าพลังงาน (Guaranteed Rebate/Chauffage)