ททท. แจง “รัฐทัวร์ทั่วไทย” หนุนข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐทำงานนอกสถานที่

21 มิ.ย. 2565 | 03:42 น.

ททท. เปิดเหตุผลดันโครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” หวังกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว รับเป็นแค่การการอนุญาตให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ 2.5 ล้านคน สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ได้เป็นระยะเวลา 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา

จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เห็นชอบการดำเนินโครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว ผ่านการส่งเสริมเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือข้าราชการลาหยุดเดินทางท่องเที่ยวหรือปฏิบัติหน้าที่นอกสำนักงาน โดยไม่นับเป็นวันได้ 2 วันนั้น

 

ล่าสุด น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เหตุผลของการดำเนินโครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” เป็นเพราะในช่วงวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดที่ผ่านมานั้นหน่วยงานราชการได้กำหนดมาตรการ/แนวทางปฏิบัติให้ปฏิบัติงานจากบ้านพัก (Work from Home) จนเป็นที่ประจักษ์ว่า ผลการดำเนินงานต่าง ๆ ล้วนสำเร็จลุล่วงด้วยดี 

 

ดังนั้นในช่วงที่รัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจและฟื้นฟูประเทศด้วยการท่องเที่ยว ททท. จึงได้เสนอโครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” ซึ่งเป็นการอนุญาตให้กำลังพลภาครัฐ ที่มีจำนวน กว่า 2.5 ล้านคน สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ได้เป็นระยะเวลา 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา คือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2565  

ทั้งนี้ในการดำเนินโครงการดังกล่าว ขอให้เป็นไปตามข้อบังคับหรือแนวทางปฏิบัติของแต่ละหน่วยงานที่จะกำหนดให้เหมาะสมต่อไป เช่น ไปเที่ยวที่ตอบกระแสการท่องเที่ยวชุมชน เทศกาลประจำภาค ส่งเสริมวัฒนธรรม วิถีชีวิต ธรรมชาติ หรือสนับสนุนพื้นที่ที่สร้าง Soft Power เป็นต้น

 

ขณะเดียวกันเพื่อช่วยให้การใช้จ่ายของกำลังพลภาครัฐสามารถกระจายไปยังชุมชนท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ทั่วประเทศ ททท.ยังเตรียมร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้ง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สมาคมและสมาพันธ์ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน

 

รวมทั้ง ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก วิสาหกิจธุรกิจท่องเที่ยว ร่วมนำเสนอข้อเสนอพิเศษทางการท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของกำลังคนภาครัฐทั่วประเทศ 

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า การออกเดินทาง ไปทำงานนอกสถานที่นั้นถือว่า กำลังพลภาครัฐนอกจากจะได้งาน และภาคธุรกิจในห่วงโซ่ท่องเที่ยวได้จะกลับมามีรายได้แล้ว กำลังพลภาครัฐยังจะมีโอกาสได้พบปะประชาชนเพื่อรับฟังสภาพความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ ปัญหา

 

รวมไปถึงข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ เพื่อมาใช้เป็นแนวคิดด้านการพัฒนาและจัดการการท่องเที่ยว และมิติที่เกี่ยวข้องด้านอื่น ๆ ได้ด้วย