ผงะ “คุณภาพสิ่งแวดล้อมไทย” ย่ำแย่ ร่วงลง 30 อันดับ ของโลก!

06 มิ.ย. 2565 | 05:28 น.

"วิษณุ ” เผยรายงาน Yale University ประเทศสหรัฐอเมริกา พบไทย “คุณภาพสิ่งแวดล้อมไทย” ย่ำแย่ ร่วงลง 30 อันดับ ของโลก! จากอันดับ 78 ของโลกในปี 2563 ไปอยู่ที่อันดับ 108 ของโลกในปี 2565 ขณะขนาดเศรษฐกิจไทยใหญ่เป็นอันดับที่ 28 ของโลก "ประมงเป็นมิตร" แย่ลงจากอันดับ 87 ไปอยู่อันดับ 110

รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเกษตร โพสต์เฟซบุ๊ก Witsanu Attavanich โพสต์คุณภาพสิ่งแวดล้อมไทยย่ำแย่ ร่วงลง 30 อันดับในระดับโลก! แย่ลงจากอันดับ 78 ของโลกในปี 2563 ไปอยู่ที่อันดับ 108 ของโลกในปี 2565

 

ขณะที่ขนาดเศรษฐกิจของไทยใหญ่เป็นอันดับที่ 28 ของโลก ความไม่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนคงเกิดขึ้นได้ยากถ้ายังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมน้อยเหมือนปัจจุบัน

 

ล่าสุด (5 มิ.ย. 65) ทาง Yale University ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการจัดอันดับสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของ 180 ประเทศทั่วโลกในปี 2565 รวมถึงประเทศไทย ผลการจัดอันดับ (ภาพที่ 2) พบว่า ภาพรวมคุณภาพสิ่งแวดล้อมของไทยแย่ลงจากอันดับ 78 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 108 ของโลก เมื่อพิจารณาแยกรายประเด็นพบว่า คุณภาพอากาศโดยรวมแย่ลงจากอันดับ 85 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 93 ของโลก อันดับด้านฝุ่นพิษ PM2.5 ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยอยู่ที่อันดับ 87 ของโลก

 

ผงะ “คุณภาพสิ่งแวดล้อมไทย” ย่ำแย่ ร่วงลง 30 อันดับ ของโลก!

 

มลพิษจากโอโซนบนภาคพื้นดินอันดับไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่สารมลพิษตัวอื่น เช่น ออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) อยู่อันดับรั้งท้ายตารางทุกสาร ส่วนหนึ่งสะท้อนผลจากการที่ประเทศไทยไม่ได้ปรับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศของสารมลพิษต่างๆ มาอย่างยาวนาน ขณะที่หลายประเทศในโลกมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

สำหรับด้านการจัดการขยะ (ภาพที่ 3) อันดับแย่ลงจากอันดับ 84 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 100 ของโลก ทั้งการควบคุมขยะมูลฝอย และการจัดการขยะพลาสติกในทะเลยังมีค่าดัชนีแย่กว่าค่าเฉลี่ยของโลก ด้านการบำบัดน้ำเสียก็แย่ลงจากอันดับ 97 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 116 ของโลก และด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศและบริการของระบบนิเวศนับว่าแย่สุดๆ ร่วงจากอันดับ 101 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 129 ของโลก

 

โดยในด้านนี้บริการระบบนิเวศถือว่าย่ำแย่มากร่วงจากอันดับ 140 ของโลก ซึ่งแย่มากอยู่แล้ว ไปอยู่ที่อันดับ 152 ของโลก ขณะที่ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอันดับดีขึ้นจากอันดับ 114 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 107 ของโลกแต่ยังมีค่าดัชนีแย่กว่าค่าเฉลี่ยของโลก

 

การทำประมง แย่ลง

 

สำหรับด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ภาพที่ 4) อันดับก็แย่ลงจากอันดับ 84 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 106 ของโลก หลักๆ เกิดจากอันดับที่แย่ด้านการคาดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (อันดับที่ 157 ของโลก) และอัตราการเติบโตของคาร์บอนดำ (อันดับที่ 127 ของโลก) ส่วนด้านการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอันดับดีขึ้นจากอันดับ 117 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 101 ของโลกแต่ยังมีค่าดัชนีแย่กว่าค่าเฉลี่ยของโลก ส่วนด้านการทำประมงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอันดับแย่ลงจากอันดับ 87 ของโลกไปอยู่ที่อันดับ 110 ของโลก

 

 

การจัดอันดับโลกในรายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นว่าการยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาประเทศไทยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมน้อยมากๆ สังเกตได้จากงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมที่ลดลงอย่างมากจากอดีต แม้ปีงบประมาณ 2566 จะปรับงบประมาณการสิ่งแวดล้อมเพิ่มจาก 8,361 ล้านบาท เป็น 10,226 ล้านบาท แต่ก็นับว่ายังน้อยกว่างบประมาณที่เคยได้รับในอดีตตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 เป็นต้นมา (ปี 2562 ได้รับงบประมาณ 10,945 ล้านบาท ปี 2563 12,868 ล้านบาท และปี 2564 16,143 ล้านบาท)

 

ผงะ “คุณภาพสิ่งแวดล้อมไทย” ย่ำแย่ ร่วงลง 30 อันดับ ของโลก!

จากข้อมูลงบประมาณจะเห็นว่างบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมมีความผันผวนขึ้นลงไปมาตลอด สะท้อนให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายของไทยมองการยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องชั่วคราวและสำคัญน้อย การดำเนินงานเพื่อการยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมจึงขาดความต่อเนื่อง สุดท้าย ผลการจัดอันดับโลกล่าสุดกำลังสะท้อนให้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต ดังนั้น คงไม่ต้องคาดหวังอะไรมากกับอันดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมไทยในระดับโลกที่จะมีแต่ทรงกับทรุดถ้ายังไม่เร่งปรับปรุง ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทยที่ดีขึ้นจากสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นกันนะครับ