บิ๊กสภาอุตฯ ฝากการบ้าน “ชัชชาติ” Big Change กทม. ทำทันทีทุกด้าน

30 พ.ค. 2565 | 09:54 น.

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระได้รับคะแนนเสียงชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย

 

เวลานี้กระแสว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังคงฟีเวอร์ ได้รับความสนใจเป็น "ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์" ไม่รู้จบในหลากหลายแง่มุม เช่นเดียวกับความคาดหวังของชาว กทม.ที่อยากเห็นนายชัชชาติ เข้ามาพลิกโฉม กทม.ครั้งใหญ่ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติ

 

ทั้งนี้ในมุมมองของภาคเอกชนคนกทม.อยากฝากอะไรถึงนายชัชชาติ   สิทธิพันธุ์ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. อยู่ระหว่างการเร่งพิจารณาประกาศรับรองผลคะแนนการเลือกตั้งบ้างนั้น

 

นายเกรียงไกร  เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยกับ ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากที่ชาว กทม.ได้แสดงเจตจำนงผ่านการเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งนี้อย่างชัดเจนว่า ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของ กทม.ในทุกด้าน หลังจากหลายปีที่ผ่านมาได้เว้นว่างการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งในโลกความเป็นจริงขณะนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

เกรียงไกร  เธียรนุกุล

 

อย่างไรก็ดีช่วงที่ผ่านมา กทม.แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ  ไม่ค่อยมีอะไรที่เป็น Big Change (การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่) เพราะฉะนั้นการที่คนกรุงเทพฯออกมาใช้สิทธิใช้เสียงมากและเทคะแนนเสียงให้นายชัชชาติแบบ landslide สะท้อนให้เห็นว่าทุกคนที่เลือกเพราะเชื่อมั่นในตัวนายชัชชาติ ที่เจ้าตัวได้มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และได้เตรียมตัวก่อนการเลือกตั้ง  โดยลงพื้นที่ศึกษาข้อเท็จจริงของปัญหาของชาวกทม.มานานกว่า 2 ปี และแปลงออกมาเป็นกว่า 200 นโยบาย(กรุงเทพฯ 9 ดี หรือนโยบาย 9 มิติ)

 

“ผมคิดว่าสิ่งที่ทุกคนคาดหวังคืออยากให้คุณชัชชาติทำงานเลย ทำงานเร็วที่สุด เพราะเวลานี้ปัญหาของกรุงเทพมหานครเร่งด่วนเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย มลพิษ น้ำเสีย คลองน้ำเน่า น้ำท่วมทุกอย่างเป็นเรื่องปัญหาที่ทุกคนต้องการให้เร่งแก้ไขด่วนที่สุด”

 

บิ๊กสภาอุตฯ ฝากการบ้าน “ชัชชาติ” Big Change กทม. ทำทันทีทุกด้าน

 

นอกจากนี้ยังรวมถึงถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย รวมถึงหน่วยงานราชการใน กทม.ในเขตต่าง ๆ ที่ทำการเขตจะทำอย่างไรให้เป็นระบบที่รวดเร็ว และเป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น สามารถขอใบอนุญาตต่าง ๆ  หรือทำอะไรต่าง ๆ ให้มีความรวดเร็ว สะดวกสบาย ทำให้บรรยากาศของการลงทุน และความเชื่อมั่นกลับมา ทั้งนักธุรกิจไทยและต่างชาติที่มาประเทศไทย หรือมากรุงเทพฯ ได้รับความสะดวก มีความโปร่งใสในการทำธุรกิจ (Ease of doing Business) ซึ่งถ้าระบบดี และทุกอย่างเริ่มกลับมาดี ตรงนี้จะทำให้เศรษฐกิจดี สร้างความเชื่อมั่น ทำให้นักลงทุนอยากลงทุนเพิ่มขึ้น

 

 

บิ๊กสภาอุตฯ ฝากการบ้าน “ชัชชาติ” Big Change กทม. ทำทันทีทุกด้าน

 

ทั้งนี้กทม.เป็นพื้นที่สำคัญ และเป็นหัวใจของประเทศ เงินลงทุนไม่ว่าจะเป็นภาคอสังหาริมทรัพย์ หรือภาคธุรกิจต่าง ๆ  การออกใบอนุญาตในการก่อสร้าง และใบอนุญาตต่าง ๆ ล้วนมีผลทั้งสิ้น ทำอย่างไรให้ก่อสร้างได้รวดเร็วขึ้น และใช้เวลาน้อยลง ไม่ให้การก่อสร้างไปเกะกะขวางทางจราจรตามเส้นทางสำคัญ ๆ ทำให้รถติด ซึ่งเวลานี้การเจรจาเริ่มกลับมาติดขัด จากเศรษฐกิจเริ่มฟื้น น้ำมันก็แพง จราจรติดขัดก็เผาน้ำมัน สิ้นเปลืองพลังงาน ก่อมลพิษทางอากาศ  ถ้าจัดระเบียบ ๆ ได้ดี  รถวิ่งได้คล่องตัว การเผาน้ำมันเสียเปล่ากลางถนนจากรถติดก็จะลดลง ทำอย่างไรฝนตกแล้วน้ำไม่ท่วมซ้ำซาก เหล่านี้ต้องเร่งทำทุกข้อ อย่าถามว่าข้อไหนเร่งด่วน เพราะมีความสำคัญทุกข้อ

 

“เพราะฉะนั้นมีตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจระดับชาวบ้าน เรื่องจัดระเบียบหาบแผงลอย เรื่องของทางเท้าทำอย่างไรให้ประชาชนเดินได้อย่างปลอดภัย ไม่ให้มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือแกร็บไบค์ขึ้นไปวิ่ง ขณะเดียวกันการที่ไทยมีสตรีทฟู้ดถือเป็นจุดแข็งของประเทศก็จริง แต่ที่ผ่านมาเน้นในเรื่องของความอร่อย  ความหลากหลาย และราคาไม่แพง แต่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องสุขลักษณะและอนามัยที่ดี กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปกำกับดูแลการทิ้งน้ำล้างจาน เศษอาหาร หรือน้ำเสียต่าง ๆ ให้มีระเบียบเรียบร้อย เหล่านี้ผู้ว่าฯกทม.ต้องทำไปทุกข้อ และต้องเร่งทำไปพร้อม ๆ กัน

 

บิ๊กสภาอุตฯ ฝากการบ้าน “ชัชชาติ” Big Change กทม. ทำทันทีทุกด้าน

 

นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า กรุงเทพฯที่อยากเห็นคือ เป็นมหานครสำหรับคนกรุงเทพ และคนทั้งโลก ซึ่งที่ผ่านมาต่างชาติโหวตให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครชั้นนำ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว เหนือกว่ากรุงลอนดอน ของอังกฤษ เหนือกว่ากรุงปารีส ของฝรั่งเศส จากมีจุดขายเรื่องความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม เรื่องวัดวาอาราม เรื่องอาหารการกิน เรื่องสตรีทฟู้ด เรื่องแฟชั่น มีทุกอย่าง อย่างไรก็ดีบางทีฝรั่ง / ต่างชาติ ชอบมาดูความแปลกเรื่องความอะเมซิ่ง เช่น เรื่องสายไฟ สายสื่อสาร(ที่เกะกะไม่เป็นระเบียบ) และไม่มีที่ไหนในโลก ที่กลายเป็นกระแสในโซเชียล ทำให้อยากมาดู ซึ่งในแง่ของชาว กทม.ที่ต้องอยู่ตรงนี้ไปตลอด ไม่ภูมิใจด้วย และไม่ต้องการจุดขายแบบนี้ไปขายให้กับนักท่องเที่ยว

 

“ที่อยากเห็นคือ กรุงเทพฯเป็นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย มีมลพิษน้อย ไฟฟ้าสว่างไสว ขยะมูลฝอยทิ้งให้เป็นระเบียบ คลองทั้งหลาย น้ำกลับมาใสไม่มีกลิ่น กลายเป็นเวนิสตะวันออก นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือมาดูวิถีชีวิตชาวบ้านเหมือนในอดีต ที่เรามีวัดวาอารามมากมายตลอดเส้นทาง สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของไทย เหล่านี้เป็นจุดขายสำคัญที่เรามีมากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะมาเที่ยวในไทย  สายไฟฟ้าต้องจัดระเบียบเอาลงใต้ดิน ทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงามขึ้น สามารถเที่ยวทั้งทางบก ทางน้ำ ขี่จักรยานก็ได้ ซึ่งคุณชัชชาติมาด้วยความคาดหวังสูง ทางภาคเอกชนก็พร้อมทำงานร่วมกับผู้ว่าฯในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ” นายเกรียงไกร กล่าว