“จุรินทร์”เดินหน้าMini-FTA ไทย-กานซู่ เน้นเจาะตลาดสินค้าฮาลาลโดยเฉพาะ

27 เม.ย. 2565 | 08:28 น.

“จุรินทร์”เดินหน้าMini-FTA ไทย-กานซู่เน้นเจาะตลาดสินค้าฮาลาลโดยเฉพาะดันทำยอดการค้า 1,265 ล้านบาท ภายใน 1 ปี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์   กล่าวภายหลังเป็นประธานลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับกรมพาณิชย์ มณฑลกานซู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายเริ่น เจิ้นเห้อ ผู้ว่าการมณฑลกานซู่ ว่า มณฑลกานซู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีความหลากหลาย และมีจุดเด่นที่แตกต่างกันในแต่ละมณฑล ด้วยเหตุนี้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

กระทรวงพาณิชย์จัดทำความร่วมมือกับมณฑลสำคัญของจีน เพื่อนำจุดเด่นของแต่ละมณฑลมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งมณฑลกานซู่จะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน ทั้งจากไทยและอาเซียนสู่จีน ไปจนถึงเอเชียกลางและยุโรปตะวันออก

 

“จุรินทร์”เดินหน้าMini-FTA ไทย-กานซู่  เน้นเจาะตลาดสินค้าฮาลาลโดยเฉพาะ

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการค้าทางบก ที่สำคัญสายหนึ่งของโลกมาตั้งแต่อดีตกาล หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เส้นทางสายไหม โดยในปัจจุบันได้ขยายจากเส้นทางทางบกไปสู่เส้นทางสายไหมทางทะเล และได้มีเส้นทางระเบียงการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลระหว่างประเทศสายใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor: ILSTC) ที่มีจุดเริ่มต้นที่ท่าเรือชินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง

 

“จุรินทร์”เดินหน้าMini-FTA ไทย-กานซู่  เน้นเจาะตลาดสินค้าฮาลาลโดยเฉพาะ

ผ่านนครฉงชิ่ง และเข้าสู่มณฑลกานซู่ เชื่อมต่อไปยังดินแดนทางทิศตะวันตกของจีน ซึ่งเป็นผลมาจากระบบขนส่งทางรางที่มีเครือข่ายครอบคลุมไปทั่วประเทศ โดยถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ระดับชาติในการพัฒนาความเชื่อมโยงจีนภายใต้นโยบายข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI)

“จุรินทร์”เดินหน้าMini-FTA ไทย-กานซู่  เน้นเจาะตลาดสินค้าฮาลาลโดยเฉพาะ

สำหรับโอกาสทางการค้าไทย มีความโดดเด่นในสินค้าฮาลาล สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อาหารและโลจิสติกส์ ในขณะที่กานซู่เป็นมณฑลที่มีความโดดเด่นด้านการแพทย์แผนจีน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและวัตถุดิบสมุนไพรที่มีความหลากหลาย และยังเป็นแหล่งทรัพยากรด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานสะอาดซึ่งเป็นกระแสที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ

“MOU ด้านการค้าระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กับกรมพาณิชย์มณฑลกานซู่ จะช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมทางการค้าระหว่างไทยและจีน และสามารถต่อยอดการค้าอีกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 หรือคิดเป็นมูลค่าการค้ารวมประมาณ 1,265 ล้านบาทภายใน1ปี”

ด้านนายเริ่น เจิ้นเห้อ ผู้ว่าการมณฑลกานซู่ กล่าวว่า ความร่วมมือทางการค้าระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กับกรมพาณิชย์ มณฑลกานซู่ จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ประสบผลสำเร็จที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า มณฑลกานซู่ หรือมณฑลกังชก มีประชากร 25 ล้านคน ใหญ่เป็นอันดับที่ 22 ของจีน(ตามลําดับจํานวนประชากร) มีชาวมุสลิม 1.6 ล้านคน (คิดเป็น 6.4%) เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกพลังงานหลักจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้แก่ พลังงานนํ้า พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานความร้อนใต้พิภพ นอกจากนี้ยังเป็นจังหวัดที่ผลิตชิปที่ใหญ่เป็นอันดับสองในจีนและเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า และอุตสาหกรรมเคมีด้วย ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของไทยไปกานซู่ 5 อันดับแรก ปี พ.ศ. 2565 (ม.ค.-ก.พ.) ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ,เอสเซนเชียลออยล์และเรซินอยด์ เครื่องหอม เครื่องสำอาง, พืชผักรวมทั้งรากและหัวบางชนิดที่บริโภคได้,เมล็ดพืช และผลไม้ที่มีน้ำมัน เมล็ดธัญพืชและผลไม้เบ็ดเตล็ดและปลา และสัตว์น้ำที่ไม่มีกระดูกสันหลัง