มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน รอบหน้า จัดที่ไหน วันที่เท่าไหร่ เช็คเลย

13 เม.ย. 2565 | 12:34 น.

รองโฆษกรัฐบาล รับการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งล่าสุด ประชาชนตอบรับดี สามารถลดหนี้สินให้ประชาชนได้แล้วกว่า 1,500 ล้านบาท ครั้งต่อไปจัดอีกที่จังหวัดไหน วันที่เท่าไหร่ เช็ครายละเอียดที่นี่

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการแก้หนี้ครัวเรือน ซึ่งกำหนดให้ปี พ.ศ. 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาหนึ้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มหนี้

 

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมเป็นกระทรวงหลักด้านการอำนวยความยุติธรรม ได้นำนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ที่มีกรมบังคับคดี กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. และสถาบันการเงินต่างๆ  

 

โดยได้ลงพื้นที่ในหลายจังหวัด เพื่อไกล่เกลี่ยหนี้สิน ก่อนฟ้อง และหลังศาลพิพากษา ซึ่งหนี้ที่ประชาชนประสบปัญหาหลัก ๆ คือ บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ และ หนี้ กยศ. 

ที่ผ่านมาได้มีการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนแล้ว จำนวน 4 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถช่วยเหลือประชาชนได้แล้ว จำนวน กว่า 8,000 คน โดยเป็นการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ทั้งในส่วนของ กยศ. และ สถาบันการเงิน สามารถลดมูลหนี้ได้ถึง 279 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ ค่าใช้จ่ายประชาชนในการดำเนินคดีได้ถึง 404 ล้านบาท ขณะที่การไกล่เกลี่ยหนี้ หลังมีคำพิพากษา ทั้งในส่วนของ กยศ. และสถาบันการเงิน สามารถลดมูลหนี้ได้ถึง 1,200 ล้านบาท รวมการช่วยเหลือในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครัวเรือน สามารถลดหนี้สินให้ประชาชนได้แล้วกว่า 1,500 ล้านบาท 

สำหรับประชาชน ที่ต้องการเข้าร่วมไกล่เกลี่ยหนี้ขอให้ติดตามรายละเอียดจากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะยังคงเดินหน้าไกล่เกลี่ยหนี้สินไปยังทุกจังหวัด โดยมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งต่อไป จะจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ในวันที่ 28 เมษายน นี้ 

 

“รัฐบาลยืนยันจะช่วยเหลือประชาชนในการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นธรรม ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ และลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ ลดการฟ้องคดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน”