วันที่ 30 มี.ค. 2565 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าร่วมประชุมผู้นำความกรอบคความร่วมมือความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (The Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation : BIMSTEC) ครั้งที่ 5 ผ่านระบบการประชุมทางไกล
โดยในเวลา 12.50 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกฯ เข้าร่วมพิธีรับตำแหน่งประธานบิมสเทค ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผู้นำและผู้แทนสมาชิกบิมสเทค
จากนั้นเวลา 13.05 น. นายกฯให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการประชุมบิมสเทค ที่จัดขึ้นโดยประธานาธิบดีศรีลังกา ซึ่งเป็นประธานบิมสเทคและวันนี้มีการส่งมอบตำแหน่งประธานบิมสเทคให้กับประเทศไทยต่อไป ในวันนี้สมาชิกเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกันทั้ง 7 ประเทศ
โดยได้กล่าวยินดีกับศรีลังกาที่ทำหน้าที่ประธานบิมสเทคเป็นอย่างดีท่ามกลางความท้าทาย ไทยยินดีที่ในวันนี้ได้รับตำแหน่งประธานบิมสเทคต่อจากประเทศศรีลังกา เป็นเวลา 2 ปี
โดยในการเป็นประธานนี้ ไทยมุ่งมั่นจะสานต่อความสำเร็จของศรีลังกาและจะขับเคลื่อนบิมสเทคไปสู่
1.ความมั่งคั่ง ไทยมุ่งส่งเสริมให้บิมสเทคมีความมั่งคั่งผ่านกรอบความร่วมมือพหุภาคีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของโควิด-19 สร้างความเชื่อมโยงกันให้มากขึ้น และใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยี
2. ความยั่งยืน ไทยมุ่งส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกสนับสนุนซึ่งกันและกัน ในการต่อสู้กับความท้าทายต่าง ๆ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนโยบายการฟื้นฟู และการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน และสมดุล
3. เปิดกว้าง ไทยให้ความสำคัญกับ “คน” (human capital) และสนับสนุนให้ประชาชน ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม และร่วมสร้างความตระหนักรู้ถึงโอกาสและการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในทุกภาคส่วน
โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมนำเสนอโมเดลเศรษฐกิจ BCG และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า 2 ปีหลังจากนี้ บิมสเทคจะมีพัฒนาการและเข้มแข็งพร้อมรับมือกับความท้าทายทุกรูปแบบ ซึ่งความมุ่งมั่นของไทยสะท้อนอยู่ในตราสัญลักษณ์และวีดิทัศน์การเป็นประธาน
โดยตราสัญลักษณ์รวงข้าวสีทองและเกลียวคลื่นสีฟ้าสะท้อนถึงการเป็นภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารของโลก มีความเชื่อมโยงผ่านเส้นทางเดินเรือในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดีย บ่งบอกถึงความมั่งคั่งและมีพลังในการฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกัน
และยังแสดงถึงความยืดหยุ่นของประเทศสมาชิกในการเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อร่วมขับเคลื่อนบิมสเทคให้ก้าวไปข้างหน้าอย่าง “มั่งคั่ง ยั่งยืน และเปิดกว้างสู่โอกาส”
ในโอกาสนี้ ผู้นำและผู้แทนประเทศสมาชิกได้ร่วมกันรับชมวีดิทัศน์เปิดตัวการเป็นประธานบิมสเทคของไทย ก่อนที่ประธานาธิบดีศรีลังกาจะกล่าวปิดประชุม เป็นอันเสร็จสิ้นการเป็นเจ้าภาพบิมสเทคของศรีลังกา และไทยได้เริ่มต้นการเป็นเจ้าภาพอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้การประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 5 ได้มีการร่วมกันลงนาม และรับรองเอกสารสำคัญ ดังนี้
นายกฯ แถลงว่า จะเห็นว่าช่วงนี้เดินทางไปร่วมประชุมหลายๆ การประชุมในต่างประเทศ โดยรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ และรัฐมนตรีที่มีไปเจรจาด้านการค้าเชื่อมโยงในหลายมิติด้วยกัน
ทั้งซาอุดีอาระเดีย บาห์เรน ดูไบ ฯลฯ ที่ไปประสานความร่วมมือเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้น อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกใบนี้ คือสถานการณ์โควิด -19 และสงครามในยุคสมัยใหม่นี้
ซึ่งเราต้องพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด เพราะมีผลกระทบถึงกันทั้งหมด ตนถึงบอกว่าประเทศไทยอยู่ตรงที่จะต้องรักษาความพอดีในจุดนี้เอาไว้ให้ได้ เนื่องจากเราเป็นสมาชิกทุกข้อผูกพันต่าง ๆ ทุกกลุ่มของประเทศต่างๆ ทุกห่วงโซ่โลก ไม่ว่าจะด้านการผลิต การแปรรูป การส่งออก การตลาดมันยึดโยงด้วยกันทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่เราต้องวางตัวให้ดีคือ ต้องระมัดระวังการดำเนินการด้านต่างประเทศไม่ให้เกิดผลเสียหายกับพวกเรากับประเทศของเรา