กรุงไทยชี้เงินเฟ้อจะปรับลดครึ่งปีหลังไม่กดดันกนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

08 ก.พ. 2565 | 06:46 น.

กรุงไทยจับตาราคาพลังงาน-ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ห่วงขยายวง -แนะรัฐดูแลโครงสร้างต้นทุนผู้ประกอบการ หากเงินเฟ้อยังสูงเกิน 3% ห่วงกระทบค่าใช้จ่ายผู้บริโภค-ชะลอกำลังซื้อ

กรุงไทยชี้เงินเฟ้อจะปรับลดครึ่งปีหลังไม่กดดันกนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS หรือ KTB เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมองว่า  การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่  9 กุมภาพันธ์  2565  ยังไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายโดยยังคงอัตราเดิมที่ 0.50% ต่อปี แม้ว่าเดือนที่ผ่านมาและแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสูงจะอยู่ที่  3%  แต่ประมาณการเงินเฟ้อยังอยู่ที่ระดับ 2% และสอดคล้องกับกรอบบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ระดับ 1-3% โดยเงินเฟ้อในครึ่งแรกของปีนี้อาจเกินกว่า  3%  ถ้าราคานำมันดิบเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  จากตอนนี้เกินกว่า 90 ดอลลาร์/บาเรล มองว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3%  โดยครึ่งปีหลังเงินเฟ้อน่าจะปรับลดลงได้และไม่กดดันกนง.

 

 

“ครึ่งปีแรกอัตราเงินเฟ้ออาจเกินกว่า 3%ได้ ซึ่งจะกระทบกำลังซื้อของประชาชน การบริโภคของครัวเรือนชะลอลง เพราะมีค่าใช้จ่ายทั้ง ค่าไฟฟ้า  ค่าเดินทาง   ขณะที่ก๊าซหุงต้มมีโอกาสปรับตัว นอกจากต้องจับตาราคาพลังงานแล้วต้องติดตามความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ถ้าความขัดแย้งขยายวงเพิ่มขึ้นอาจจะมีส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการขนส่งระหว่างประเทศ ขณะที่กรุงไทยคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเข้ามาประมาณ 2แสนคนต่อไตรมาส”

ปัจจุบันรัฐบาลพยาบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30บาทต่อลิตร  ซึ่งน้ำมันดีเซลมีความสำคัญต่อการขนส่ง และการเดินทาง ของประชาชน 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาด้านพลังงานอื่นๆ เช่น ก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้าซึ่งมีการใช้แก๊สในการผลิตเชื้อเพลิง อาจจะกระทบค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือน  ร้านค้าขนาดเล็ก  โดยหากปัจจัยเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง รัฐบาลอาจจะต้องเข้ามาดูแลโครงสร้างต้นทุนของผู้ประกอบการ  ในแง่ค่าขนส่ง  ค่าโดยสาร  อาจจะขอปรับขึ้น รวมถึงค่าอาหาร เป็นต้น