“พาณิชย์” มั่นใจดันค้าชายแดน-ผ่านแดนปี65โต5-7%

03 ก.พ. 2565 | 06:35 น.

อานิสงส์เศรษฐกิจโลก-บาทอ่อน “พาณิชย์” มั่นใจดันค้าชายแดน-ผ่านแดนปี65โต5-7%  ชี้รถไฟลาว-จีน ทำส่งสินค้าสะดวก และมีแผนเร่งเปิดด่านเพิ่มอีก 12 ด่าน แต่ยังต้องจับตาโควิด-19 โอมิครอน และสถานการณ์ในเมียนมา  

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยวาขณะนี้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เงินบาทยังอ่อนค่า เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2564 จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟลาว-จีน ทำให้การส่งออกสินค้าไทยจากเวียงจันทน์ไปจีนทำได้สะดวก

“พาณิชย์” มั่นใจดันค้าชายแดน-ผ่านแดนปี65โต5-7%

มีผลกับตัวเลขการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้น มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มข้นในรูป กรอ.พาณิชย์ หรือวอรูมการส่งออก และมีนโยบายเร่งรัดการเปิดด่านชายแดนเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันมี 97 ด่าน เปิดแล้ว 48 ด้าน และมีเป้าหมายเปิดปี 2565 อีก 12 ด่าน

“พาณิชย์” มั่นใจดันค้าชายแดน-ผ่านแดนปี65โต5-7%

สำหรับเป้าหมายการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนปี 2565 จากการหารือร่วมกับภาคเอกชนได้ข้อสรุปว่า ตั้งเป้าไว้ที่ 5-7% คาดว่าจะทำมูลค่าเฉพาะการส่งออก 1.08-1.10 ล้านล้านบาท  แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยง 2 ประเด็นใหญ่ คือ ประเด็นที่หนึ่ง สถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเปิดปิดด่าน และการจราจรส่งออกสินค้าผ่านแดนข้ามแดน เพราะอาจมีความเข้มงวดในการตรวจโรคมากขึ้น ประเด็นที่สอง สถานการณ์การเมืองในเมียนมา อาจมีผลกระทบต่อตัวเลขการส่งออกสินค้าชายแดนไทยไปเมียนมาได้ โดยเฉพาะนโยบายการลดการใช้เงินตราต่างประเทศของเมียนมา เพื่อควบคุมการนำเข้า เพื่อลดปัญหาการขาดดุลการชำระเงินของเมียนมา

“พาณิชย์” มั่นใจดันค้าชายแดน-ผ่านแดนปี65โต5-7%

สำหรับทั้งปี 2564 การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน มีมูลค่า 1,715,345 ล้านบาท เพิ่ม 30.03% เฉพาะการส่งออก มูลค่า 1,031,330 ล้านบาท เพิ่ม 34.60% และนำเข้ามูลค่า 684,015 ล้านบาท เพิ่ม 23.70% ซึ่งตัวเลขส่งออกทั้งปี 2564 ของไทย มีมูลค่า 8.5 ล้านล้านบาท เป็นตัวเลขที่ผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนในประเทศเพื่อนบ้านถึง 1 ล้านล้านบาท และตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 2564 เกินกว่าเป้าที่กำหนดที่ 6% ประมาณ 5-6 เท่า