อัพเดท! น้ำมันรั่วมาบตาพุด ยังไม่พบคราบน้ำมันบริเวณชายหาด

จากกรณีที่กรมควบคุมมลพิษ ได้รับแจ้งจากบริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) ว่าได้เกิดเหตุน้ำมันดิบจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)

 

 

ซึ่งเป็นของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง รั่วไหลลงทะเล

 

 

ล่าสุดบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการออกหนังสือแถลงการณ์ฉบับที่่ 6 โดยมีข้อความระบุว่า 

 

 

พบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)

ตามที่บริษัทฯ แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 20 กิโลเมตร เมื่อเวลา 21.06 น. ของวันที่ 25 มกราคม 2565

 

 

บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าว่า ในวันนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ ภายใต้การบัญชาการของ ศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ (ศอปน.ทร.)

 

 

• ได้มีการใช้เรือและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือภาคที่ 1 ทำการฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน 
• บริษัท Oil Spill Response Limited (OSRL) ได้ส่งเครื่องบิน C-130 บินสำรวจพื้นที่พบคราบฟิล์มน้ำมันบางๆ 
• ได้มีการใช้เรือในการวางทุ่นกักน้ำมัน (boom) เพื่อกักคราบน้ำมันไว้บริเวณชายหาดแม่รำพึง และได้รับการสนับสนุนจาก บมจ. ไออาร์พีซี ในการใช้ทุ่นกักน้ำมัน (boom) เพื่อกักคราบน้ำมันบริเวณแนวชายหาดของ บมจ. ไออาร์พีซี
• ได้รับความร่วมมือจากชุมชนประมงชายฝั่งในการออกเรือสำรวจพื้นที่ชายฝั่ง
• ได้รับความร่วมมือจากกองทัพเรือและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการจัดบุคลากรเพื่อเฝ้าระวังและสำรวจตามแนวชายฝั่งบริเวณชายหาดแม่รำพึงจนถึงเขาแหลมหญ้า 
   

ทั้งนี้ การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถขจัดคราบน้ำมันไปได้มาก ทีมสำรวจตามแนวชายฝั่งได้รายงานว่าในขณะนี้ยังไม่พบคราบน้ำมันบริเวณชายหาด

 

 

โดยบษัทฯ จะดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อขจัดคราบน้ำมันให้ได้มากที่สุด รวดเร็วที่สุด และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลและการประกอบอาชีพประมงชายฝั่งน้อยที่สุด 

 

 

สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องด้วยความปลอดภัย 

 

 

 

หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ