กขค. ประกาศบังคับใช้ “เครดิตเทอม” 16 ธ.ค.นี้

24 พ.ย. 2564 | 02:58 น.

กขค. ประกาศบังคับใช้ “เครดิตเทอม” 16 ธันวาคมนี้   พร้อมชวนภาคธุรกิจ – เอสเอ็มอี ร่วมทำความเข้าใจ พร้อมรับเป็นแนวทางปฏิบัติ

   นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า และโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือ สขค. ได้ชี้แจงรายละเอียดของประกาศเรื่องแนวทางการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) กรณีผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นผู้ขายสินค้าหรือบริการ

กขค. ประกาศบังคับใช้ “เครดิตเทอม” 16 ธ.ค.นี้

 

ให้กับผู้ประกอบธุรกิจทราบอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ายังมีประเด็นคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติ จึงต้องการทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจได้ทราบและมีความรู้ความเข้าใจเป็นแนวปฏิบัติสำหรับการประกอบธุรกิจที่ตรงกัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่ประกาศฯ จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ในรายละเอียด ดังนี้   ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจทุกรายในภาคการผลิต การค้าและบริการ ซึ่งครอบคลุมผู้ซื้อทั้งผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ประกอบธุรกิจ SMEs

   หลักเกณฑ์การพิจารณาผู้ประกอบธุรกิจ SMEs กรณีการผลิตสินค้า ต้องมีการจ้างงานไม่เกิน 200 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 500 ล้านบาท กรณีการให้บริการ กิจการค้าส่ง หรือกิจการค้าปลีก ต้องมีการจ้างงานไม่เกิน 100 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 300 ล้านบาท โดยแนวทางในการพิจารณาเมื่อเข้าองค์ประกอบการจ้างงาน หรือรายได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ตามประกาศฯ

การกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) กรณีเป็นสินค้าหรือบริการทั่วไป กำหนดระยะเวลาไว้ไม่เกิน 45 วัน กรณีสินค้าเกษตร หรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร กำหนดระยะเวลาไว้ไม่เกิน 30 วัน โดยการเริ่มนับระยะเวลาจะพิจารณาเมื่อมีการส่งมอบสินค้าหรือบริการ ครบถ้วนถูกต้องตามจำนวน ประเภท คุณภาพและมาตรฐานของสินค้าหรือบริการที่คู่สัญญาได้ตกลงกันไว้ มีการตรวจรับเรียบร้อยและส่งมอบเอกสารครบถ้วน เช่น ใบแจ้งหนี้ (Invoice) ที่มีใบกำกับภาษีการลงนามถูกต้อง หรือใบส่งมอบสินค้า (D/O) ที่มีการลงนามรับสินค้าหรือบริการแล้ว อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามการค้าปกติที่เคยปฏิบัติกันมา

การชำระสินเชื่อการค้า (Credit Term) กรณีผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ ต้องแสดงรายละเอียดและขั้นตอนการจ่ายเงินให้ชัดเจน โดยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการชำระเงินเช่น ระบบการวางบิล รอบวันการวางบิล ระบบบัญชี เพื่อให้สามารถชำระสินเชื่อการค้าได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประกาศฯ กรณีผู้ขายสินค้าหรือบริการที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ต้องแสดงหลักฐานจำนวนการจ้างงานหรือเอกสารแสดงรายได้ต่อปี เช่น งบการเงินที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า การชำระหนี้ที่ยื่นต่อกรมสรรพากร เอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานประกันสังคม หรือ เอกสารอื่นใดที่หน่วยงานราชการยอมรับว่าเป็น SMEs หากไม่มีจริงๆ สามารถใช้เอกสารจ้างงานหรือรายได้ที่จัดทำขึ้นเองและรับรองความถูกต้องของเอกสารให้แก่คู่ค้าตามที่ตกลงกัน เป็นต้น อย่างไรก็ดีอาจมีการตกลงยกเว้นไม่ต้องแสดงเอกสารใดๆ หากคู่ค้าเชื่อถือและยอมรับหรือมีวิธีการตรวจสอบของตนอยู่แล้ว 

“กขค.จะเผยแพร่คำอธิบายไกด์ไลน์เครดิตเทอมเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจชัดเจนและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรม ในกรณีเกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) ได้แก่ การประวิงเวลาการจ่ายค่าสินค้าหรือบริการเกินกว่าระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร การเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้าหรือเงื่อนไขอื่นภายใต้สัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือพฤติกรรมอื่นๆ อันเป็นการบังคับโดยผู้ประกอบธุรกิจรายใดซึ่งเป็นคู่ค้ากับ SMEs อย่างไม่เป็นธรรมที่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการต้องรู้  และหากผู้ประกอบธุรกิจรายใดมีการกระทำผิดตามประกาศฯ จะมีโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด