ก้าวใหม่ "สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย"

07 ต.ค. 2564 | 08:12 น.

“อุทัย” จัดทัพ เสริมแกร่ง ชาวสวนยางทั้งประเทศ ดึงกูรูยางเสริมทีม ปั้นยุทธศาสตร์ให้ยอดคล้องกับยางพาราโลก แก้ปัญหายางทั้งระบบ จับตา ก้าวใหม่ “ สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย “

 

อุทัย สอนหลักทรัพย์

 

วันที่ 7 ตุลาคม 2564 ดร.อุทัย  สอนหลักทรัพย์  นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า วันนี้ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2564  ผ่านระบบ  Conference   เพื่อเดินหน้าเตรียมแผนการขับเคลื่อนแก้ปัญหายางทั้งระบบ 

 

"เนื่องจากที่ผ่านยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ  ซึ่งเกิดจากการติดเงื่อนไขตั้งแต่ระดับนโยบายที่ไม่ต่อเนื่อง  รวมทั้งปัญหาการทุจริต  และปัญหาสถานการณ์การแพรระบาดโรคโควิด 19 ส่งผลกระทบไปถึงเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่"   

 

ดังนั้นการแก้ปัญหาจึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาทั้งระบบครบวงจร  และเกิดจากความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง    ทั้งนี้ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานของสมาคมฯ ในช่วงที่ผ่านมา  ซึ่งผลงานสำคัญของสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย  ในการผลักดันแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง  ผ่านระดับคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ครั้งที่ 1/2564 วันที่ 15 เมษายน 2564

 

โดยที่ประชุมได้ ให้มีการติดตามการขายยางในสต๊อกโครงการของรัฐบาลเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง 104,763.35 ตัน   โดยมติของคณะกรรมการสมาคมฯ ได้ทำหนังสือเสนอประธานคณะกรรมการ กยท. ผ่านผู้ว่า กยท. ขอให้พิจารณาข้อเสนอของสมาคมฯ แล้วดังต่อไปนี้ 

(1) ให้เกษตรกรชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามกฏหมาย (ถือครองบัตรสีชมพู) ได้รับสิทธิประโยชน์จาก กองทุนพัฒนายางพารามาตรา 49(3(4)(5) และ (6) คณะกรรมการฯ  อนุมัติแล้ว

 

(2) ให้เกษตรกรชาวสวนยาง ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมาย (ถือครองบัตรสีชมพู) ได้รับสิทธิประโยชน์ในการสงเคราะห์ปลูกแทนจาก กองทุนพัฒนายางพารา มาตรา 49 (2) ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้คนอยู่กับป่า โดยใช้สิทธิ์ในฐานะเป็น “ผู้เช่า”ที่ดินจากรัฐ ตามความหมายในมาตรา 4 อยู่ระหว่างการพิจารณา

 

(3) ให้สมาคมฯ ได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกับ สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร ตามความหมายในมาตรา 4 ซึ่งในมาตรา 49(3)(6) กำหนดการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนายางพารา เพื่อสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง

 

ประชุมซูมออนไลน์

 

นอกจากนี้ที่ประชุมสมาคมฯวันนี้ยังได้เสนอให้มีการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (ชุดใหม่)   พิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์   พิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษา  รวมทั้งการเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้เองเพื่อสร้างเยาชนยางรุ่นใหม่ (smart young rubber) ซึ่งมาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพาราทั้งต้นน้ำ  กลางน้ำ  และปลายน้ำ โดยมีสถาบันการศึกษา  ร่วมดัวย     

ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาให้มีการปรับนโยบายของสมาคมฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เป็นฉบับปี 2564-2565   ประกอบด้วย  6  ด้าน  คือ

 

1.  การวางแผนและพัฒนายางพาราอย่างเป็นระบบครบวงจร โดยให้มีการเชื่อมโยงทั้งการผลิต การแปรรูป และการตลาด เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตยางพาราของชาวสวนยาง ด้วยการแปรรูป โดยนำระบบที่ทันสมัย ทั้งอุปกรณ์ และการบริหารจัดการ มาพัฒนาชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ และชาวสวนยางทั่วไป

 

มีความอยู่ดีกินดีจากการขายยางในราคาที่เป็นธรรม ทั้งผลผลิตยางพาราต้นน้ำ และผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูป  เพื่อให้มีรายได้เพิ่มจากการสร้างมูลค่ายางพารา และรายได้เสริมที่ไม่พึ่งพาการปลูกยางในเชิงเดี่ยวโดยสนับสนุนให้ปลูกพืชแซมหรือพืชร่วมยาง

 

2. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวสวนยางได้เรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับงานที่ทำอยู่แล้วให้มีการพัฒนายิ่งขึ้น อันเกิดประโยชน์แก่ชาวสวนยางที่เป็นสมาชิก สยท.และชาวสวนยางอื่นภายใต้การสนับสนุนจาก หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน

 

3. พิทักษ์ผลประโยชน์ของชาวสวนยางตามสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ โดยยึด กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีข้อบังคับ และระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้เสนอแนะข้อขัดข้องในการปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข

 

4. สร้างช่องทางการตลาดให้กับผลผลิตยางพารา-ต้นน้ำ และผลิตภัณฑ์ยางกึ่งสำเร็จรูป-กลางน้ำ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป-ปลายน้ำ โดยเชื่อมต่อทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ โดยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อชาวสวนยาง

 

5. ร่วมแก้ปัญหากับทุกองค์กร ในขบวนการผลิต- ต้นน้ำ แปรรูป-กลางน้ำและปลายน้ำ และ การตลาดเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้เกษตรกรชาวสวนยาง และร่วมแก้ปัญหาในธุรกิจยางพารา เพื่อมิให้ตลาดยางของไทยถูกกีดกันทางการค้า

 

6. เป็นองค์กรอิสระ ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมและกำกับของภาครัฐ การเมือง หรือเอกชน โดยยึดผลประโยชน์ของชาวสวนยางเป็นหลัก

 

ทั้งนี้ที่ประชุมได้เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนยางต่าง ๆ ที่ได้ร่วมประชุม  และได้มีการเสนอการทำจัดทำยุทธศาสตร์ยางแผน 5-10 ปี เพื่อเดินหน้าร่วมแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ  รวมทั้งจะได้มีการการปลดล็อคเงื่อนไขที่เป็นข้อจำกัดในการพัฒนายางพาราของประเทศไทย  โดยจะได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป