"เอ็กโก กรุ๊ป" กำไรไตรมาส 2/64 กว่า 2.7 พันล้านบาท

12 ส.ค. 2564 | 06:59 น.

เอ็กโก กรุ๊ป กำไรไตรมาส 2/64 กว่า 2.7 พันล้านบาท พร้อมก้าวสู่บทบาทใหม่ในฐานะผู้ประกอบการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ เดินหน้าร่วมทุนกลุ่ม กฟผ. นำอินโนพาวเวอร์ลุยธุรกิจ Smart Energy Solution เต็มรูปแบบ

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564  การดำเนินธุรกิจนับว่ามีความท้าทายมาก ทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19)ระลอกใหม่ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องจากเทคโนโลยีดิสรัปชัน แต่บริษัทก็สามารถขยายการลงทุนใหม่ได้สำเร็จ โดยสามารถไปปักธงในสหรัฐอเมริกา ด้วยการลงทุนในโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งได้ปิดดีลเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ในขณะเดียวกัน ยังสามารถขยายการลงทุนสู่ธุรกิจเชื้อเพลิง โดยได้รับมติเห็นชอบการออกใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper License) 200,380 ตันต่อปี จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

นอกจากนี้ ยังสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้ดำเนินไปได้ตามแผนงาน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/64 เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การด้อยค่าของสินทรัพย์ การวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า) 2,758 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/63 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพาจู และโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 64 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 4,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,510 ล้านบาท ลดลง 3,565 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 จำนวน 2,095 ล้านบาท ลดลง 2,567 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลกระทบทางบัญชีที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินบาทจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท

เอ็กโก กรุ๊ป กำไรไตรมาส 2/64 กว่า 2.7 พันล้าน
ด้านโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้า 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล หยุนหลิน ในไต้หวัน ก่อสร้างแล้วเสร็จ 69% และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ น้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จ 89% นอกจากนี้ ยังมีโครงการธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อสร้างแล้วเสร็จ 85% ในขณะที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยองอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ

นายเทพรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า ทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลังของปี 64 นั้น เอ็กโก กรุ๊ป กำลังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจเชื้อเพลิงและระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจหลัก ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง และการนำเข้าแอลเอ็นจีตามที่ได้รับใบอนุญาตจาก กกพ. รวมทั้งธุรกิจ Smart Energy Solution เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต ได้แก่ การลงทุนในบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมไฟฟ้าและธุรกิจ New S-Curve โดยเอ็กโก กรุ๊ป จะเน้นการต่อยอดทางธุรกิจของเทคโนโลยีด้านไมโครกริด ด้านระบบกักเก็บพลังงาน และด้านยานยนต์ไฟฟ้า
“เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยมุ่งต่อยอดธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ในขณะเดียวกัน ได้เร่งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างสมดุลในพอร์ตโฟลิโอให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านในอุตสาหกรรมพลังงาน ทำให้มั่นใจได้ว่าเอ็กโก กรุ๊ป จะสามารถเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว”