อีเอ ดัน 3 โปรเจ็กต์ บุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้า

01 ม.ค. 2564 | 01:24 น.

    อีเอ เดินหน้าธุรกิจรถ-เรือ-แท็กซี่ไฟฟ้า บูมอีวี เริ่มนำร่องปี 64 ส่งเรือไฟฟ้าให้บริการ 27 ลำ ภายในไตรมาส 2 ปี 64 ตั้งเป้ารายได้โต 20-30% ลุยเปิดให้บริการเฟส 2 เพิ่ม 3 เส้นทาง ภายในเดือนเม.ย. 64 

 

 

 


    ภายหลังโครงการทดลองเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา MINE SMART FERRY : “MISSION NO EMISSION” River Mass Transit พร้อมเปิดท่าเรือสะพานพุทธยอดฟ้า ท่าเรืออัจฉริยะโดยกรมเจ้าท่า ร่วมกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ไปแล้วนั้น  นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA (อีเอ) เปิดเผย ว่า ภายในปีนี้( 2564) บริษัทฯ เตรียมผลักดันธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) รวมทั้งการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเฟสแรก ราวไตรมาส 1 ปี 2564 ขณะเดียวกันจะดำเนินการผลิตรถบัสโดยสารไฟฟ้า โดยปัจจุบันบริษัทฯจะเข้าร่วมการประมูลรถเมล์ไฟฟ้า ราว 3,000 คัน ขององค์การขนส่งมงลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งบริษัทฯ เป็นซัพพลายเออร์ รถเมล์ไฟฟ้า จำนวน 2,500 คัน ให้ขสมก.

 

ส่วนความคืบหน้ารถแท็กซี่ไฟฟ้า จำนวน 5,000 คัน ขณะนี้บริษัทเลื่อนการส่งมอบออกไป เนื่องจากเกิดการแพรร่ะบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบสอง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป บริษัทจึงปรับรูปแบบรถเป็นรถขนส่งสินค้า หรือรถรับส่งพนักงาน และรถโดยสารข้ามจังหวัดเส้นทางระยะสั้นแทน นายอมร กล่าวต่อว่า ด้านธุรกิจเรือไฟฟ้า ขณะนี้ บริษัทฯ จะทดลองให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา 3 ลำแรก ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2563 - 14 ก.พ.2564 โดยจะให้บริการประชาชนฟรี หลังจากนั้นจะทยอยพัฒนาเรือโดยสารดังกล่าวและนำมาให้บริการระยะแรก ครบ 27 ลำ ภายในต้นไตรมาส 2 ปี 2564 

 

 “บริษัทฯ เชื่อว่าหากสถานการณ์การท่องเที่ยวกลับมาดี ความต้องการใช้บริการเรือโดยสารเพิ่มมากขึ้น จะมีการขยายปริมาณเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าเข้ามาให้บริการอย่างต่อเนื่อง”
    

อีเอ ดัน 3 โปรเจ็กต์ บุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้า

 

นายอมร กล่าวต่อว่า สำหรับต้นทุนการพัฒนาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าจะสูงกว่าเรือโดยสารพลังงานดีเซล ซึ่งหากเทียบต้นทุนแล้ว สูงกว่ากันอยู่ที่ราว 20% แต่บริษัทฯ เชื่อว่าเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าจะเกิดประโยชน์ในระยะยาว ทั้งด้านการลดมลภาวะ ประกอบกับการลดต้นทุนดูแลรักษา ส่งผลให้ผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเรือโดยสารพลังงานดีเซล ซึ่งจากการขยายธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัทฯที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า บริษัทฯ จึงคาดการณ์ว่า ภายในปี 2564 ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มรายได้ให้บริษัทฯ โต 20-30% 
    ด้านรายได้ของบริษัทฯ ในช่วง 9 เดือน ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 12,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เป็นรายได้ สายธุรกิจไบโอดีเซลมีรายได้ 4,639 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% สายธุรกิจไฟฟ้ามีรายได้ 7,795 ล้านบาท ลดลง 2% มีกำไรสุทธิ 3,720 ล้านบาท 
    นาวาโท ปริญญา รักวาทิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด กล่าวว่า สำหรับการให้บริการระยะที่ 1 บริษัทฯ จะเริ่มเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2564 เป็นเวลา 6 เดือน จากนั้น จะคิดค่าโดยสารตามระยะทาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอให้กรมเจ้าท่าพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม
    ทั้งนี้มีแผนการเปิดให้บริการเฟส 2 อีก 3 สายเส้นทาง ภายในเดือนเม.ย. 2564 ประกอบด้วย 1. Urban line เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีม่วง เริ่มที่สถานีพระนั่งเกล้า-สาธร 2. Metro line เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เริ่มที่สถานีพระราม 7 และ 3. City line เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีสาทร ส่วนเฟส 3 ภายในเดือนพ.ค. 2564 จะเปิดให้บริการครบสมบูรณ์ทั้ง 
3 เส้นทาง โดยจะมีการนำเรือมาให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 27 ลำ สำหรับ เรือไฟฟ้าในโครงการ เป็นเรืออลูมิเนียมชนิด Catamaran ความยาวตลอดลำเรือ 23.97 เมตร กว้าง 7 เมตร ลึก 2.30 เมตร กินน้ำลึกบรรทุก 1.30 เมตร ให้การทรงตัวที่ดี ความเร็วน้อย ประหยัดพลังงาน ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไออน ไร้มลภาวะทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และทางเสียง เป็นห้องโดยสารปรับอากาศ กว้างขวาง ขึ้น-ลงสะดวกสบาย ทันสมัย และปลอดภัย สามารถรองรับผู้โดยสาร จำนวน 250 คน ความเร็วเดินทางขึ้นอยู่กับความเร่งด่วน ในเวลานั้น โดยมีความเร็วสูงสุด 16 น็อต นอกจากนี้ ได้ติดตั้งสถานีชาร์จไฟแบบ DC Fast Charge ระดับ 4-C สามารถชาร์จเร็วภายใน 15 นาที ความจุแบตเตอรี่ Li-Ion 768 kW-hr เวลาสำหรับใช้งานต่อการชาร์จ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดินเรือ ทั้งนี้ จะเปิดให้บริการเรือไฟฟ้าฟรี 2 เดือน เริ่มตั้งแต่ 23 ธ.ค. 2563 - 14 ก.พ. 2564 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามการให้บริการเรือดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ส่วน คือวันจันทร์-ศุกร์ ให้บริการฟรีจอดรับส่งผู้โดยสาร บริเวณท่าเรือ 11 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือพระราม 5 พระราม 7 เกียกกาย บางโพธิ์ เทเวศ พรานนก ปากคลองตลาด ราชวงศ์ กรมเจ้าท่า แคททาวเวอร์ และสาทร ส่วนวันเสาร์ - อาทิตย์ จะให้บริการฟรี เฉพาะท่าเรือ ที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าช้าง วัดอรุณฯ วัดกัลยาณมิตร กรมเจ้าท่า และท่าแคททาวเวอร์ เพื่อมอบของขวัญ ปีใหม่ให้กับประชาชนในปี 2564 นี้

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,640 วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 - 2 มกราคม พ.ศ. 2564