การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ “กฟภ” (PEA) แนะประชาชนติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว "อาร์ซีดี" (RCD: Residual Current Device) เพื่อป้องกันการเกิดไฟดูด และอัคคีภัยที่เกิดจากไฟฟ้ารั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนตรวจสอบการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าภายในบ้านในช่วงฤดูฝน โดยเครื่อง "RCD" มีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ 1.เครื่องตัดไฟรั่วแบบ อาร์ซีบีโอ (RCBO: Residual Current Circuit Breaker with Over Current Protection) ใช้ตัดได้ทั้งไฟรั่ว ไฟเกิน และไฟฟ้าลัดวงจร มักจะใช้ในกรณีที่ต้องการให้เครื่องตัดไฟรั่วทำงานครอบคลุมทั้งบ้าน
และ2.เครื่องตัดไฟรั่วแบบ อาร์ซีซีบี (RCCB: Residual Current Circuit Breaker) ใช้ตัดไฟรั่วอย่างเดียว จึงมักใช้ร่วมกับฟิวส์หรือเบรกเกอร์ด้วยกันทุกครั้ง โดยเครื่อง RCD ที่ได้รับมาตรฐาน ต้องผลิตและผ่านการทดสอบตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) มีพิกัดกระแสไฟฟ้ารั่วไม่เกิน 30 มิลลิแอมป์ และติดตั้งคู่กับสายดิน
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการ "PEA" กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยตามบ้านเรือนที่พักอาศัย คือ เหตุการณ์ไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเกิดจากพายุหรือลมที่พัดแรง ส่งผลให้สายไฟฟ้าเกิดการชำรุด และหากในพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำขัง ยิ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้อยู่อาศัยจากการโดนไฟดูดและอาจเป็นสาเหตุของอัคคีภัย ดังนั้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการรั่วไหลของไฟฟ้า ทุกบ้านเรือนจึงควรติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วอาร์ซีดี (RCD: Residual Current Device) นอกจากจะเป็นการป้องกันไฟฟ้าดูดแล้ว เครื่อง RCD ยังสามารถตรวจสอบการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าภายในบ้าน โดยเครื่อง RCD มีทั้งหมด 2 แบบดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน การเลือกซื้อเครื่อง RCD ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยเครื่อง RCD ที่มีมาตรฐานนั้นจะต้องมีรูปแบบดังนี้ 1.ผลิตและผ่านการทดสอบตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หมายเลข 909-2548 สำหรับแบบอาร์ซีบีโอ หรือ มอก. 2425-2552 (สำหรับแบบอาร์ซีซีบี)
,2.มีพิกัดกระแสไฟฟ้ารั่วไม่เกิน 30 มิลลิแอมป์ และ3.ติดตั้งคู่กับสายดิน เพราะสายดินจะช่วยนำไฟฟ้าที่รั่ว ไหลลงดินโดยไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อคนที่สัมผัส สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองสื่อสารองค์กร ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค Call center : 1129