“โคโรนา”ลามเศรษฐกิจฐานรากขาดสภาพคล่อง

09 มี.ค. 2563 | 07:50 น.

ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ

 

 

พิษ“โคโรนา”ลามเศรษฐกิจฐานราก สุ่มสำรวจสถานะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ ขาดสภาพคล่อง  ไม่มีเงินชำระหนี้ สินค้าค้างสต็อกไม่มีที่ขาย ล่าสุดสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยชงข้อมูลถึงสสว.ต้องการความช่วยเหลือด่วน

นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางสมาพันธ์ฯได้สุ่มสำรวจเสียงจากสมาชิกจำนวนหนึ่งเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว หลังรับศึกหนักจากปัญหาที่รุมเร้ารอบด้าน โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในขณะนี้ แล้วนำเสนอไปยังสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป

การสุ่มสำรวจตัวอย่างจากกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากทั้งหมด 51ราย มีรายขาดทุนหมุนเวียน 38 รายหรือคิดเป็น 74.5%  และเป็นกลุ่มที่ไม่มีเงินชำระหนี้  27 ราย  หรือคิดเป็นสัดส่วน 52.9%  เป็นกลุ่มที่แจ้งว่าสินค้าค้างสต็อกไม่มีที่ขาย 12 ราย หรือคิดเป็น 23.%   และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่สะท้อนว่ายอดขายในช่วง 2 เดือนที่เกิด ลดลงแล้ว 42 รายหรือ 82.4% ส่วนอื่นๆก็จะเป็นกลุ่มที่ไม่มีวัตถุดิบผลิตและมีปัญหาต้นทุนการผลิตและต้นทุนการบริหารจัดการ

 “โคโรนา”ลามเศรษฐกิจฐานรากขาดสภาพคล่อง

โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ

ส่วนสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการความช่วยเหลือจากการสุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการจำนวน  52 ราย   พบว่า 30 รายหรือสัดส่วน 57.7%  ขอหยุดพักชำระหนี้  รองลงมา 25 คน  หรือ 48.1%อยากให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบ  ต้องการลดต้นทุน เช่น ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม 21 ราย หรือสัดส่วน 40.4% นอกจากนั้นจะเป็นเรื่องของความช่วยเหลือด้านหาแหล่งวัตถุดิบทดแทนราคาถูก  เรื่องขาดแดคลนแรงงาน การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นต้น

ด้านดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานกิตติมศักดิ์ สมาพันธ์ SME ไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการภาครัฐต้องแบ่งเป็น 2 ระยะ คือระยะที่ COVID-19 กำลังระบาด รัฐก็ต้องเลี้ยงและ ดูแลคนที่กำลังใกล้หมดแรง แต่เน้นไปที่มาตรการด้านการควบคุมโรค    ส่วนระยะที่ 2 คือระยะฟื้นตัวหลังควบคุม COVID-19 ได้แล้ว ก็ต้องกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ รัฐต้องออกมาตรการลด แลก แจก แถมขนานใหญ่ในช่วงนี้