ติดRFID แก้ลักลอบทิ้งกากอุตฯ

03 มี.ค. 2563 | 04:20 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มี.ค. 2563 | 11:28 น.

กนอ.เร่งดันโครงการติดตามกากขยะอุตสาหกรรมภาคเหนือเฟสแรก แก้ปัญหาลักลอบทิ้งขยะ คาดแล้วเสร็จเดือนส.ค.นี้ ก่อนขยายผลสู่นิคมทั่วประเทศ พร้อมติดตั้งเครื่องชั่งน้ำหนัก และเครื่องตรวจสอบรหัสเพิ่มความสมบูรณ์

นายพรเทพ ภูริพัฒน์ รองผู้ว่าการ (สายงานกิจการพิเศษ) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ กนอ. กำลังเร่งดำเนินการโครงการนำร่อง (pilot project) การติดตามกากขยะอุตสาหกรรมที่ออกจากนิคมอุตสาหกรรมไปกำจัดยังสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือจังหวัดลำพูน โดยใช้งบลงทุนประมาณ 8-9 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบทางด้านการบริหารสาธารณูปโภค หรืองบปรับปรุงซ่อมแซมจากบริษัท โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด (Gusco) บริษัทร่วมทุนของ กนอ. โดยแบ่งมาจาก 8% ของรายได้

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นระยะแรก เพื่อเป็นการทดสอบระบบ เป็นการนำเทคโนโลยีระบบจีพีเอส (GPS) กับอาร์เอฟไอดี (Radio frequency identification : RFID) ซึ่งใช้ในการระบุสิ่งต่างๆ โดยอาศัยคลื่นวิทยุเป็นเครื่องมือติดตามการขนส่งกากขยะอุตสาหกรรมแบบทันทีทันใด หรือเรียลไทม์ ตั้งแต่นิคมอุตสาหกรรมไปจนถึงบริษัทรับจ้างกำจัดขยะอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) คาดว่าการดำเนินการเฟสแรกน่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคมหรือกันยายนปีนี้ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน มีจำนวนโรงงาน 76 โรงงาน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มีกากขยะอันตรายที่ต้องนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีอยู่พอสมควร

อย่างไรก็ดี เมื่อมีการทดสอบระบบจนมั่นใจได้ว่าสามารถทำงานได้อย่างเสถียร และมีประสิทธิภาพ จะมีการดำเนินการเฟสที่ 2 ซึ่งจะเป็นการติดตั้งเครื่องชั่งน้ำหนัก และระบบตรวจสอบรหัส (checking code) คาดว่าจะมีงบลงทุนอีกประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อให้ระบบสมบูรณ์มากขึ้น พร้อมกับการนำระบบจากโครงการนำร่องดังกล่าวไปดำเนินการต่อยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป

“โรงงานอุตสาหกรรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดเพิ่มเติม แต่จะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นในการกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม จากเดิมที่จะต้องยื่นเอกสารขออนุญาตจากนิคมให้บริษัทรับกำจัดขยะมารับขยะออกไปจากนิคม โดยมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่หากเป็นระบบที่กำลังพัฒนาอยู่โรงงานสามารถยื่นขออนุญาตที่ใด หรือเวลาใดก็ได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน”

ขณะที่ผู้ให้บริการรับกำจัดขยะอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเล็กน้อย ในการเข้าร่วมโครงการ โดยเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาการกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมได้อย่างแน่นอน เพราะมีระบบติดตามแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการนำขยะทิ้งระหว่างทาง หรือนำไปไม่ถึงปลายทางสำหรับโรงงานที่อยู่ในนิคม นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนให้โรงงานทำถูกต้องตามกฎหมายด้วย เนื่องจากปัจจุบันยังมีโรงงานที่หลีกเลี่ยงการกำจัดอย่างถูกต้องอยู่ เพราะการกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องเป็นต้นทุนที่สูง แต่เมื่อมีระบบดังกล่าวนี้เข้ามาทุกโรงงานก็จะเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมรับ

“เมื่อมีระบบทุกโรงงานก็จะเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ติดตามการลักลอบทิ้งกาก จากจำนวนรถขนขยะหรือกากอุตสาหกรรมที่ออกจากโรงงานเป็น 100 คันทั่วประเทศได้ หากนำกากไปทิ้งนอกเส้นทาง ไม่ถึงปลายทาง ระบบนี้จะติดตามตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเลยว่ามีการแวะที่ไหนผิดปกติ รวมถึงออกนอกเส้นทาง และปริมาณกากอยู่ครบหรือไม่”

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,553 วันที่ 1 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2563

ติดRFID แก้ลักลอบทิ้งกากอุตฯ