สนข. ย้ำ! เดินหน้าเพิ่มขนส่งทางราง เพิ่มอาคารจอดแล้วจร

07 มี.ค. 2562 | 08:24 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

สนข. ย้ำ! เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางรางครอบคลุมทุกเส้นทาง ภายใต้ยุทธศาตร์ชาติ 20 ปี ยึด "สถานีบางซื่อ" ศูนย์กลางใหญ่ จ่อเพิ่มอาคารจอดแล้วจรหลายจุด เพิ่มประสิทธิภาพ หวังแก้ภาพคนกรุงใช้รถส่วนตัว แก้มลพิษ และความเหลื่อมล้ำ
 

นายชยธรรม์ พรหมศร

⇲ นายชยธรรม์ พรหมศร


นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "เชื่อมราง เชื่อมรถ เชื่อมคน ลดเหลื่อมล้ำ เข้าถึงคมนาคมไร้รอยต่อ" ในงานสัมนา "พลิกโฉมไทย เปิดประตูสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม" จัดโดย "หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ" เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2562 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติแนนตัล ว่า ในอดีต ยอมรับประเทศไทยมีความล้มเหลวในเชิงระบบขนส่งสาธารณะ ประชาชนมีข้อจำกัดในการเดินทางอย่างมาก เนื่องจากขนส่งหลัก คือ ระบบรางดั้งเดิม อย่าง "รถไฟ" มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก่อให้เกิดค่านิยมใช้รถยนต์ส่วนตัว และนำมาซึ่งปัญหาการจราจรแออัด พร้อมกับขนส่งใหม่ ๆ ตามมา ทั้งรถตู้โดยสาร รถร่วมเอกชน หรือแม้แต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งยากต่อการจัดระบบและระเบียบ ทั้งยังมีผลเสียเรื่องมลภาวะ และยังไม่ตรงกับความต้องการแท้จริงของประชาชน ที่อยากมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ตรงเวลา ปลอดภัย และราคาสมเหตุสมผล จนกลายเป็นโจทย์สำคัญของภาครัฐ กำหนดภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป้าหมายสูงสุด คือ การพัฒนาระบบขนส่งที่ต้องปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคนทุกกลุ่มสามารถใช้ประโยชน์ได้ ผ่านนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐาน 3 ส่วน ดังนี้

1) การพัฒนาขนส่งสาธารณะที่ตอบโจทย์การเดินทางในเมือง เพื่อหยุดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ผ่านรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ มากกว่า 10 สาย

2) การพัฒนาขนส่งสาธารณะสำหรับการเดินทางระหว่างเมือง ผ่านโครงการรถไฟรางคู่

3) การพัฒนาขนส่งสาธารณะสำหรับใช้เชื่อมต่อภูมิภาค ผ่านโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง


นายชยธรรม์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนารถไฟฟ้ารองรับการขนส่งของคนเมืองนั้น ปัจจุบัน มีรถไฟฟ้าเปิดใช้บริการรวมแล้ว 4 สาย 120 กิโลเมตร สายสีเขียว (หมอชิต-แบริ่ง คนใช้บริการ 7 แสนคน), สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางซื่อ คนใช้บริการ 4 แสนคน), สายสีม่วง (บางซื่อ-เตาปูน) และแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ปัจจุบัน มีคนใช้บริการมากกว่า 7.5 หมื่นคน ซึ่งอยู่ระหว่างแก้ปัญหาเพื่อให้ขบวนรถเพียงพอกับความต้องการ ขณะเดียวกัน ในอนาคตจะมีการทยอยเปิดเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

"จากนี้ไป ทุก ๆ ปี จะมีการทยอยเปิดเส้นทางใหม่ ประชาชนออกจากบ้านทุก ๆ 1 กิโลเมตร ต้องเจอสถานีรถไฟฟ้า รัฐกำลังเดินหน้าก่อสร้างอีก 173 กิโลเมตร หลายสายเตรียมเปิดให้บริการช่วงปีนี้และปีหน้า" นายชยธรรม์ กล่าว

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับระบบขนส่งระหว่างเมือง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนและอำนวยความสะดวกในแง่การส่งสินค้าในหลายเมือง เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช และภูเก็ต เป็นต้น ผ่านการพัฒนารถไฟรางคู่ เพื่อแก้ปัญหาความล่าช้า การสับเปลี่ยนรางที่เกิดขึ้นกับรางเดียวในปัจจุบันนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟรางคู่ใน 5 เส้นทาง เช่น ช่วงฉะเชิงเทรา-แก่งคอย, จิระ-ขอนแก่น และอยู่กำลังศึกษารูปแบบการดำเนินการอีก 9 เส้นทาง เช่น เส้นทางนครปฐม หัวหิน เป็นต้น เช่นเดียวกับนโยบายการพัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูง เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านและการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีระบบขนส่งหลายเส้นทางเกิดขึ้น จำเป็นต้องมีศูนย์กลางการเชื่อมต่อ จึงก่อให้เกิดโครงการ สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดปลายปี 2563 จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะประกอบไปด้วย อาคาร 3 ชั้น รวม 24 ชานชาลา รองรับการวิ่งเข้ามาของรถไฟฟ้าในเมือง รถไฟเชื่อมระหว่างเมือง และรถไฟฟ้าความเร็วสูง

"แผนนโยบายข้างต้นจะมีสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อทุกระบบขนส่ง ทั้งรถไฟฟ้ากระจายไปในเส้นทางต่าง ๆ ของเมือง และจุดตัดรถไฟฟ้าระหว่างเมือง รวมถึงรถไฟฟ้าความเร็วสูงด้วย"

ขณะเดียวกัน สนข. ยังย้ำว่า รัฐยังให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางบางซื่อ และแต่ละสถานีใหญ่ ๆ ด้วย เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์และไลฟ์ไตล์ของประชาชน ทั้งพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่สำคัญ คือ การเพิ่มอาคารจอดแล้วจร 11 จุด เส้นทางสกายวอร์ค และไบค์เลน รวมถึงการจัดสรรปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถของรถเมล์ทั่วไป ที่จากอดีตวิ่งออกเมือง ให้วิ่งเข้าสู่ศูนย์กลาง เพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน รวมถึงเส้นทางลักษณะเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการด้วย หวังลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

"ภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ต้องไม่เห็นการขับรถมากองกันอยู่บนถนน ประชาชนจะใช้ระบบขนส่งเป็นหลัก ออกจากบ้าน ขับรถมาจอดในอาคารจอดรถ ก่อนแยกกันไปคนละเส้นทาง" นายชยธรรม์ กล่าว

090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503