Play
ชัยพรสหฟาร์มผิดหวังแบงก์ยื้อ-ไม่ต่อสินเชื่อขยายธุรกิจ
“ชัยพรสหฟาร์ม”ผิดหวังแบงก์กรุงไทยแจ้งปฏิเสธปล่อยสินเชื่อขยายฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ต่อโดยไม่แจ้งเหตุผล หลังยื้อเรื่องมานานเกือบ 6 เดือน ร้องรองผู้ว่าสุพรรณฯ-รัฐสภาช่วย หลังแบงก์ยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมไถ่ถอนจำนองที่ดิน ด้านผู้บริหารกรุงไทยระบุยึดตามเกณฑ์ธนาคาร เบื้องลึกขอเคลียร์กับลูกค้าเอง
นายชัยพร สีถัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยพรสหฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า กับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงนายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อร้องเรียนความเดือดร้อนของบริษัทซึ่งเป็นฟาร์มไก่ไข่ขนาดใหญ่ กรณีที่สำนักธุรกิจธนาคารกรุงไทย สาขาสุพรรณบุรีไม่ยอมไถ่ถอนการจำนองที่ดิน 4 โฉนด ให้ทางบริษัทฯ ทำให้ขาดสภาพคล่องและทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ทางบริษัทเป็นลูกค้าของสำนักงานธุรกิจสุพรรณบุรีมีวงเงินสินเชื่อ 105.7 ล้านบาท ณ วันที่ 24 สิงหาคม 258 จนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ลูกค้าเป็นหนี้ปกติ และเป็นลูกค้าที่ดีกับธนาคารกรุงไทยมาโดยตลอด และได้ชำระหนี้และเหลือยอดหนี้ 87.8 ล้านบาท ในปี 2559 ทางบริษัทได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมบนโฉนดที่ดิน 21898 เลขที่ดิน 62 หน้าสำรวจ 1303 ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอบางปลาม้า จงหวัดสุพรรณบุรี เนื้อที่ 35 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา มีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 หมื่นตารางเมตร ณ วันที่ 20 มกราคม 2560 ได้ส่งประเมินทรัพย์สินใหม่ มูลค่าทรัพย์สิน ที่ดินสิ่งปลูกสร้างมีมูลค่ารวม 98.4 ล้านบาท และมีมูลค่าเครื่องจักร 8 รายการ มีมูลค่ารวม 49.2 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 147.7 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินเพียงแปลงเดียวมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินปัจจุบันเกือบ 60 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 บริษัทได้ยื่นขอให้ทางธนาคารสนับสนุนสินเชื่ออีก 107 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องจักร และใช้เป็นทุนหมุนเวียน ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ทางธนาคารได้แจ้งปฏิเสธการให้สินเชื่อ จึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน และนายสิทธิพร อิทธิวิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มธุรกิจขนาดกลางภาคกลาง และภาคตะวันออก ธนาคารกรุงไทยได้เข้ามาพูดคุยและรับปากว่าจะพิจารณาอีกครั้ง และจะมีคำตอบว่าจะให้สินเชื่อหรือไม่ในวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาทางธนาคารกรุงไทย สำนักงานธุรกิจสุพรรณบุรีได้มีหนังสือแจ้งมายังบริษัทว่า จากการพิจารณาของทางธนาคารแล้วขอปฏิเสธการให้สินเชื่อ โดยระบุไม่ผ่านเกณฑ์การให้สินเชื่อ แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลว่าจากสาเหตุใดบ้าง
“ทางธนาคารรับปากจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 31 พฤษภาคม 2560 แต่สุดท้ายรอมาเกือบ 6 เดือนได้แจ้งปฏิเสธการให้สินเชื่อต่อ ไม่ผ่านเกณฑ์อะไร อย่างไร ก็ไม่แจ้งเหตุผลให้เราทราบเลย ดังนั้นทางบริษัทจึงได้ร้องขอไถ่ถอนจำนองโฉนดและทรัพย์สินบางส่วนออกจากธนาคารกรุงไทยเพื่อที่จะได้นำไปหาแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่นมาช่วยเสริมสภาพคล่องให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่ทางธนาคารก็ยังบ่ายเบี่ยง ดังนั้นจึงได้ร้องเรียนความเดือดร้อนไปยังทางจังหวัด และสื่อมวลชน รวมถึงได้ยื่นหนังสือต่อรัฐสภาเพื่อความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน”
ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ”ได้ติดต่อไปยังนายสิทธิพร อิทธิวิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มธุรกิจขนาดกลางภาคกลาง และภาคตะวันออก ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) เพื่อขอคำชี้แจงถึงเหตุผลที่ทางธนาคาร ไม่ปล่อยสินเชื่อต่อให้กับบริษัท ชัยพรสหฟาร์ม จำกัด ได้รับคำตอบสั้น ๆ ว่า “ทางธนาคารได้มีหนังสือแจ้งการปฏิเสธไปให้ลูกค้าไปแล้วโดยได้พิจารณาตามเกณฑ์ของธนาคาร เดี๋ยวทางทีมงานจะไปแจ้งและสื่อสารกับลูกค้าเอง”
นายชัยพร สีถัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยพรสหฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า กับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงนายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อร้องเรียนความเดือดร้อนของบริษัทซึ่งเป็นฟาร์มไก่ไข่ขนาดใหญ่ กรณีที่สำนักธุรกิจธนาคารกรุงไทย สาขาสุพรรณบุรีไม่ยอมไถ่ถอนการจำนองที่ดิน 4 โฉนด ให้ทางบริษัทฯ ทำให้ขาดสภาพคล่องและทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ทางบริษัทเป็นลูกค้าของสำนักงานธุรกิจสุพรรณบุรีมีวงเงินสินเชื่อ 105.7 ล้านบาท ณ วันที่ 24 สิงหาคม 258 จนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ลูกค้าเป็นหนี้ปกติ และเป็นลูกค้าที่ดีกับธนาคารกรุงไทยมาโดยตลอด และได้ชำระหนี้และเหลือยอดหนี้ 87.8 ล้านบาท ในปี 2559 ทางบริษัทได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมบนโฉนดที่ดิน 21898 เลขที่ดิน 62 หน้าสำรวจ 1303 ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอบางปลาม้า จงหวัดสุพรรณบุรี เนื้อที่ 35 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา มีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 หมื่นตารางเมตร ณ วันที่ 20 มกราคม 2560 ได้ส่งประเมินทรัพย์สินใหม่ มูลค่าทรัพย์สิน ที่ดินสิ่งปลูกสร้างมีมูลค่ารวม 98.4 ล้านบาท และมีมูลค่าเครื่องจักร 8 รายการ มีมูลค่ารวม 49.2 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 147.7 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินเพียงแปลงเดียวมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินปัจจุบันเกือบ 60 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 บริษัทได้ยื่นขอให้ทางธนาคารสนับสนุนสินเชื่ออีก 107 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องจักร และใช้เป็นทุนหมุนเวียน ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ทางธนาคารได้แจ้งปฏิเสธการให้สินเชื่อ จึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน และนายสิทธิพร อิทธิวิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มธุรกิจขนาดกลางภาคกลาง และภาคตะวันออก ธนาคารกรุงไทยได้เข้ามาพูดคุยและรับปากว่าจะพิจารณาอีกครั้ง และจะมีคำตอบว่าจะให้สินเชื่อหรือไม่ในวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาทางธนาคารกรุงไทย สำนักงานธุรกิจสุพรรณบุรีได้มีหนังสือแจ้งมายังบริษัทว่า จากการพิจารณาของทางธนาคารแล้วขอปฏิเสธการให้สินเชื่อ โดยระบุไม่ผ่านเกณฑ์การให้สินเชื่อ แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลว่าจากสาเหตุใดบ้าง
“ทางธนาคารรับปากจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 31 พฤษภาคม 2560 แต่สุดท้ายรอมาเกือบ 6 เดือนได้แจ้งปฏิเสธการให้สินเชื่อต่อ ไม่ผ่านเกณฑ์อะไร อย่างไร ก็ไม่แจ้งเหตุผลให้เราทราบเลย ดังนั้นทางบริษัทจึงได้ร้องขอไถ่ถอนจำนองโฉนดและทรัพย์สินบางส่วนออกจากธนาคารกรุงไทยเพื่อที่จะได้นำไปหาแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่นมาช่วยเสริมสภาพคล่องให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่ทางธนาคารก็ยังบ่ายเบี่ยง ดังนั้นจึงได้ร้องเรียนความเดือดร้อนไปยังทางจังหวัด และสื่อมวลชน รวมถึงได้ยื่นหนังสือต่อรัฐสภาเพื่อความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน”
ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ”ได้ติดต่อไปยังนายสิทธิพร อิทธิวิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มธุรกิจขนาดกลางภาคกลาง และภาคตะวันออก ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) เพื่อขอคำชี้แจงถึงเหตุผลที่ทางธนาคาร ไม่ปล่อยสินเชื่อต่อให้กับบริษัท ชัยพรสหฟาร์ม จำกัด ได้รับคำตอบสั้น ๆ ว่า “ทางธนาคารได้มีหนังสือแจ้งการปฏิเสธไปให้ลูกค้าไปแล้วโดยได้พิจารณาตามเกณฑ์ของธนาคาร เดี๋ยวทางทีมงานจะไปแจ้งและสื่อสารกับลูกค้าเอง”