ฟิตช์ เรตติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบราซิลลงอีกครั้ง หลังปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองยังคงรุมเร้าประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคละตินอเมริกา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฟิตช์ เรตติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบราซิลลงอีก 1 ขั้นเป็นระดับ BB เท่ากับอันดับความน่าเชื่อถือของเอสแอนด์พี โกลบอล เรตติ้งส์ และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส พร้อมกับคงแนวโน้มที่เป็นลบเอาไว้ โดยระดับเครดิตดังกล่าวอยู่ในกลุ่มเดียวกับประเทศอย่างโครเอเชีย โบลิเวีย ปารากวัย และกัวเตมาลา
บราซิลกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ ท่ามกลางปัญหาคดีคอร์รัปชันที่ทำให้สภาคองเกรสไม่สามารถอนุมัติมาตรการใหม่ๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ ฟิตช์กล่าวว่า ความล้มเหลวในการสร้างเสถียรภาพให้กับแนวโน้มทางการคลัง ประกอบกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่น
ฟิตช์มองว่า แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในกรณีที่นางดิลมา รุสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีบราซิล ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง และนำมาซึ่งการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ แต่การเปลี่ยนแปลงจะทำได้ยาก เนื่องจากปัญหาการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลผสม
"เศรษฐกิจที่ถดถอยต่อเนื่องอย่างรุนแรง สะท้อนถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในระดับสูง ความเชื่อมั่นที่อ่อนแอ ตลาดแรงงานที่ย่ำแย่ลง และปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกที่รุนแรง แนวโน้มในระยะกลางยังคงไม่มีปัจจัยบวก เนื่องจากการลงทุนลดน้อยลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และไม่มีความคืบหน้าในการปฏิรูปเศรษฐกิจในระดับมหภาคและบรรยากาศในการทำธุรกิจ" นักวิเคราะห์ของฟิตช์กล่าวในรายงาน
ฟิตช์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจบราซิลจะหดตัว 3.8% ในปีนี้ และฟื้นกลับมาขยายตัวได้ 0.5% ในปี 2560 ขณะที่หนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นเกือบถึง 80% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายในปี 2560 ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นหนึ่งในประเทศระดับ BB ที่มีหนี้สาธารณะสูงสุด
บราซิลสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือในระดับลงทุนสุดท้ายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากมูดีส์ประกาศลดอันดับเครดิตของประเทศลง 2 ขั้น ด้านเอสแอนด์พีลดอันดับเครดิตของบราซิลสู่ระดับขยะเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ก่อนจะปรับลดลงอีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ฟิตช์ลดเครดิตบราซิลสู่ระดับขยะเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคมปีก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจของประเทศจะถดถอยอย่างหนัก แต่ในปีนี้สินทรัพย์ของบราซิลทำผลงานได้ดี เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่านางรุสเซฟฟ์จะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการปูทางสู่รัฐบาลใหม่ที่นักลงทุนเชื่อว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
วุฒิสภาของบราซิลมีกำหนดลงมติในสัปดาห์หน้าว่าจะเดินหน้ากระบวนการไต่สวนนางรุสเซฟฟ์หรือไม่ หลังจากเมื่อเดือนก่อนสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบกระบวนการถอดถอนนางรุสเซฟฟ์ ซึ่งถ้าเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาเห็นชอบ นางรุสเซฟฟ์จะต้องก้าวลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อเข้าสู่กระบวนการไต่สวนต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,155 วันที่ 8 - 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559