เดลต้าบุกหนัก รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย จ่อขยายเวลาล็อกดาวน์

20 ก.ค. 2564 | 01:13 น.

ออสเตรเลียประกาศวานนี้ (19 ก.ค.) ว่า รัฐวิกตอเรียซึ่งมีเมลเบิร์น เป็นเมืองหลวง และเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ จะขยายเวลาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันอังคารนี้ (20 ก.ค.) ออกไปอีก

นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า รัฐวิกตอเรีย จะยังไม่ยกเลิก มาตรการล็อกดาวน์เนื่องจากยังคงตรวจพบการติดเชื้อในชุมชนอยู่ และจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในวันอังคารนี้ (20 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น)

 

"แม้อาจดูเหมือนมีแสงสว่างให้เห็น แต่ก็มีโอกาสสูงมากที่เราจะกลับสู่การล็อกดาวน์อีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามหลีกเลี่ยง"

 

รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชาชนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และเป็นที่ตั้งของ เมืองเมลเบิร์น รายงานพบการติดเชื้อรายใหม่ 13 รายเมื่อวันจันทร์ (19 ก.ค.) ลดลงจาก 16 รายในวันอาทิตย์ โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดต่างก็มีความเชื่อมโยงกัน

เดลต้าบุกหนัก รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย จ่อขยายเวลาล็อกดาวน์

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจากเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า ทำให้ชาวออสเตรเลียเกือบครึ่งหนึ่งจากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 25 ล้านคนต้องกักตัวเองอยู่ในบ้านภายใต้มาตรการล็อกดาวน์

 

โดย ซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ใน รัฐนิวเซาท์เวลส์ อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์เป็นเวลา 5 สัปดาห์(กำหนดสิ้นสุดลงในวันที่ 30 ก.ค.)

 

 ข่าวระบุว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีซิดนีย์เป็นเมืองหลวง มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศ 98 รายในวันจันทร์ (19 ก.ค.) ลดลงจาก 105 รายในวันอาทิตย์ และมีอย่างน้อย 20 รายที่เป็นผู้ติดเชื้อในชุมชน ซึ่งใกล้เคียงกับหลายวันที่ผ่านมา สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่ารัฐนิวเซาท์เวลส์จะได้ขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์เมืองซิดนีย์มาแล้วถึง 2 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มประกาศใช้ครั้งแรกในวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เดลต้าบุกหนัก รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย จ่อขยายเวลาล็อกดาวน์

ขณะเดียวกัน ประชาชนในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีเมลเบิร์น เป็นเมืองหลวง ตลอดเวลา 1 ใน 3 ของปีที่ผ่านมา (2563) ก็อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมาโดยตลอดเนื่องจากเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิดในออสเตรเลียรอบแรก การล็อกดาวน์รอบล่าสุดกำลังจะสิ้นสุดลงในวันอังคารนี้ แต่ก็กำลังจะถูกขยายเวลาออกไปโดยทางการรัฐวิกตอเรียจะประกาศรายละเอียดตามมา

 

นับตั้งแต่ที่โควิด-19  แพร่ระบาดมายังออสเตรเลียเมื่อปีที่ผ่านมา (2563) ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศขยับขึ้นเป็นกว่า 31,900 ราย และยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 915 ราย  โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้กับประชาชนของออสเตรเลียนับว่าล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศอุตสาหกรรมพัฒนาแล้วในโลกตะวันตก โดยผู้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วมีสัดส่วนเพียง 13% (ข้อมูล ณ 19 ก.ค.) ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในออสเตรเลีย คะแนนความนิยมในตัวนายสกอตต์ มอริสัน นายกรัฐมนตรี ตกฮวบสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากประชาชนไม่พอใจกับการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า  นักวิเคราะห์เชื่อว่า นับจากนี้จนถึงสิ้นปี หากรัฐบาลออสเตรเลียไม่สามารถเร่งอัตราการฉีดวัคซีนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ก็จะเกิดเหตุการณ์คลายล็อกดาวน์แล้วต้องกลับมาล็อกกันใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้อีกหลายครั้ง