อินโดนีเซียเลื่อนเปิดเกาะบาหลี รับนักท่องเที่ยวต่างชาติออกไปก่อน จากเดิมที่กำหนดไว้ในปลายกรกฏาคมนี้ ใกล้เคียงกับแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวของเกาะภูเก็ต ภายใต้นโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
หลังพบบาหลีมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มวันละ200 คน โดยจะต้องลดจำนวนให้เหลือวันละ30-40 คนก่อนจะกลับการพิจารณาเปิดเกาะอีกครั้ง
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ประเทศอินโดนีเซีย มีแผนเตรียมจะเปิดเกาะบาหลี ในปลายเดือนกรกฏาคมนี้ ภายใต้แผนจับคู่เดินทาง 3B Travel Bubble ได้แก่ 3 เกาะสำคัญนำร่อง บาหลี (Bali) บาตัม (Batam) บินตัน (Bintan) กับ 6 ประเทศที่ควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีนสิงคโปร์ ยูเครน และโปแลนด์ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวบาหลีจะมีการกักตัวอยู่ที่ 5 วัน
โดยในเบื้องต้นรัฐบาลอินโดนีเซียจะจัดสรรพื้นที่ กรีนโซน (Green Zones) 5 เขตนำร่องสำหรับเปิดรับนักท่องเที่ยวในระยะแรก ได้แก่ เขตอูบุด (Ubud), ซานูร์ (Sanur) และ นูซา ดัว (Nusa Dua) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเกาะบาหลี และเขตบาตัม (Batam) บินตัน (Bintan) ของเกาะรีเยาซึ่งถือเป็นสามเหลี่ยมทองคำเชื่อมระหว่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
โดยแต่ละเกาะจะรับเที่ยวบินไม่เกิน 2 เที่ยวต่อวันในช่วงแรกของโครงการนำร่องและให้สิทธิถือวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวไม่เกิน 60 วัน
แต่ล่าสุดสำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อ 29 มิ.ย.64 อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายซานเดียกา อูโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ว่าอินโดนีเซียจะเลื่อนการเปิดเกาะบาหลีซึ่งกำหนดไว้ใน ก.ค.64 เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
จนกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 บนเกาะบาหลี จะลดลงเหลือประมาณวันละ 30-40 คน หลังจากห้วง มิ.ย.64 เกาะบาหลีมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 200 คน
ทั้งนี้อินโดนีเซียให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนบนเกาะบาหลี โดยร้อยละ 70 ของประชากรบนเกาะ ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วและคาดว่าจะได้รับวัคซีนครบ 2 โดส ในปลาย ก.ค.64 ขณะที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศที่จะเดินทางมาเกาะบาหลี ยังต้องตรวจการติดเชื้อโรค COVID-19 ด้วยวิธี PCR และมีผลตรวจยืนยันว่าไม่ติดเชื้อแสดงต่อเจ้าหน้าที่