นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวถึง ข้อตกลงการค้าอังกฤษ-อียูหลังเบร็กซิท ว่า นี่คือ ข้อตกลงการค้าฉบับประวัติศาสตร์ ที่ทำให้อังกฤษได้กลับมาควบคุมเงินตรา พรมแดน กฎหมาย การค้า และน่านน้ำในการทำประมงของตัวเอง แต่สิ่งที่ต้องจ่ายแลกมาก็คือ การสูญเสียสิทธิพิเศษบางอย่างที่เคยมีเคยได้จากอียู ซึ่งหมายความว่า หลังวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ภาคธุรกิจของอังกฤษอาจจะต้องเผชิญกับกำแพงการค้าบางอย่างที่ไม่เคยพบเจอในช่วงที่เป็นสมาชิกอียู และผลกระทบก็จะมาถึงผู้บริโภคของอังกฤษอย่างแน่นอน
เนื้อหาสาระสำคัญโดยย่อของ ข้อตกลงการค้าอังกฤษ-อียู ฉบับนี้มีอย่างไรบ้าง บลูมเบิร์กได้ประมวลรวบรวมไว้ ดังนี้
การค้าสินค้า
ภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ สินค้า “ส่วนใหญ่” ที่ค้าขายระหว่างอังกฤษและอียู จะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมหรือมีโควตาใหม่ๆ แต่ผู้ส่งออกของอังกฤษจะเจอกับอุปสรรคการค้าในแง่ของกฎระเบียบต่าง ๆที่จะทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นและทำธุรกิจในยุโรปได้ยากขึ้น
การค้าด้านบริการ (ภาคการเงิน)
ยังไม่มีความชัดเจนมากนักสำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจภาคบริการทางการเงิน เนื่องจากยังไม่มีการตัดสินใจในเรื่อง “การปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน” ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถให้บริการทางการเงินจากอังกฤษไปยังประเทศต่าง ๆในตลาดร่วมยุโรปภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน ข้อตกลงใหม่เพียงระบุกฎเกณฑ์มาตรฐานสำหรับบริการทางการเงิน แต่ไม่ได้รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงและช่องทางเข้าถึงตลาด
ทั้งอังกฤษและอียูยังจะต้องเจรจากันเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ฝ่ายกรรมาธิการยุโรปซึ่งกำกับดูแลเรื่องการเข้าถึงตลาดอียู ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากอังกฤษ และอังกฤษเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายประกาศว่าตกลงที่จะเพิ่มความร่วมมือในการกำกับดูแลบริการทางการเงิน ทั้งนี้ตั้งเป้าเซ็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) เกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าวในเดือนมี.ค. 2564
การแข่งขันบนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกัน
ข้อตกลงใหม่นี้กำหนดให้ทั้งสองฝ่ายรักษามาตรฐานความโปร่งใสเกี่ยวกับระบบภาษี ประเด็นแรงงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าไม่มีการฉวยโอกาส หรือเอาเปรียบกัน
การแก้ไขข้อตกลง
อาจมีการเปิดเจรจาทำข้อตกลงการค้ากันใหม่หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาท หรือต้องการเปลี่ยนแปลงแก้เงื่อนไขในข้อตกลงการค้าที่มีอยู่ สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการเจรจา คือปัญหาที่ว่า หากมีข้อพิพาทการค้าเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า อังกฤษและอียูจะมีกลไกยุติข้อพิพาทแบบไหน มีความเป็นไปได้ว่า
การแก้ไขข้อพิพาททางการค้า
หากมีข้อขัดแย้งหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อตกลงการค้านี้เกิดขึ้น อังกฤษและอียูจะต้องเจรจากัน โดยไม่ต้องมีศาลยุติธรรมอียูเข้ามาเกี่ยวข้อง คณะอนุญาโตตุลาการอาจตัดสินบางเรื่องและสั่งให้ฝ่ายหนึ่งแก้ไขปัญหา หรือจ่ายค่าชดเชย ถ้าหากไม่เป็นไปตามนั้น อีกฝ่ายอาจจะระงับการปฏิบัติตามข้อตกลงโดยปิดกั้นการเข้าถึงตลาดหรือระงับความร่วมมือ
กฎเกณฑ์ว่าด้วยการทำประมง
ประเด็นนี้มีการถกเถียงกันมาก ความต้องการมีอำนาจอธิปไตยในการทำประมงเหนือน่านน้ำของตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อังกฤษต้องการแยกตัว ภายใต้ข้อตกลงใหม่
พิธีการทางศุลกากร
ทั้งสองฝ่ายรับปากจะจำกัดให้มีขั้นตอนพิธีการทางศุลกากรน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้ล่าช้า มีการใช้ช่องทางเพิ่มความสะดวก เช่นช่องทางสำหรับผู้ค้าที่น่าเชื่อถือ ที่เรียกว่า AEO ย่อมาจาก authorized economic operator
การบินและการขนส่งทางบก
ข้อตกลงใหม่ไม่ได้ให้การยอมรับโดยอัตโนมัติต่อการออกแบบอากาศยานของอังกฤษอีกต่อไป จนกว่าอียูจะมั่นใจเกี่ยวกับมาตรฐานการออกใบรับรองงานออกแบบอากาศยานของอังกฤษ ส่วนการขนส่งทางบกด้วยรถบรรทุกข้ามชายแดนอังกฤษ-อียู ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะบริหารจัดการด้านการออกวีซ่าและการจัดการ ณ จุดตรวจชายแดนสำหรับรถบรรทุกอย่างมีประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการพักค้างข้ามแดนของคนขับรถบรรทุก
การส่งผ่านข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
มีมาตรการที่จะใช้ชั่วคราวเพื่อให้การติดต่อ-ส่งผ่านข้อมูลข่าวสารระหว่างอังกฤษและอียูยังคงเป็นไปตามปกติ ช่วงระยะเวลาของการใช้มาตรการชั่วคราวนี้คาดว่าจะเป็นเวลา 6 เดือนหรือจนกว่าฝ่ายอียูจะมีการประกาศใช้ “มาตรการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ” (EU Adequacy Decision) ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษามาตรฐานสูงในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พลังงาน
อังกฤษจะไม่ได้รับช่องทางเข้าสู่ตลาดพลังงานของอียู แต่คาดว่าจะมีการจัดทำข้อตกลงใหม่เกี่ยวประเด็นนี้ภายในเดือนเม.ย.2565 เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการส่งกระจายไฟฟ้าระหว่างอังกฤษและยุโรปจะราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
การทำงานของบุคลากรวิชาชีพ
ไม่มีการรับรองโดยอัตโนมัติเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคลากรด้านวิชาชีพระหว่างอังกฤษและอียูอีกต่อไป โดยฝ่ายอียูระบุว่า แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ วิศวกร หรือสถาปนิก ของอังกฤษ จะต้องขอใบรับรองคุณสมบัติด้านวิชาชีพจากแต่ละประเทศสมาชิกอียู ที่พวกเขาประสงค์จะเข้าไปทำงาน ประเด็นนี้นับเป็นความสูญเสียของฝ่ายอังกฤษ ที่ไม่ต้องการอุปสรรคใดๆ “ที่ไม่จำเป็น” มากีดกั้นการบริการด้านวิชาชีพที่มีการกำกับดูแลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงฉบับใหม่มีการระบุถึงกรอบสำหรับการรับรองคุณสมบัติของบุคลากรวิชาชีพสำหรับอังกฤษเอาไว้ด้วย
การเดินทางเพื่อธุรกิจ
มีบทบัญญัติระบุไว้ภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่เกี่ยวกับการเดินทางเพื่อการทำธุรกิจของคนอังกฤษหรือบริษัทอังกฤษในอียูหลังจากที่ระยะเวลาแห่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้บุคคลอังกฤษที่เดินทางไปอียูเพื่อการทำธุรกิจในช่วงเวลาสั้น ๆ สามารถเยือนอียูได้ 90 วัน นอกจากนี้ บุคคลอังกฤษที่เยือนอียูเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจเพื่อการจัดตั้งบริษัทยังไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตการทำงานในช่วงเวลานั้นด้วย
การเสียภาษี
ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะยึดมั่นมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการสร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับการชำระภาษีและจะต่อต้านพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงภาษีทั้งของบุคคลและนิติบุคคล
การเกษตร
การค้าสินค้าเกษตรจะได้ประโยชน์จากสถานะปลอดภาษี ปลอดโควตา ภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่นี้ อย่างไรก็ตาม อาจจะมีอุปสรรคใหม่ๆในการส่งสินค้าข้ามแดน ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นและสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ให้บริการขนส่ง
การบังคับใช้กฎหมาย
ข้อตกลงการค้าฉบับใหม่นี้ส่งเสริมให้มีความร่วมมือระหว่างอังกฤษและอียู โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีก่อการร้ายและอาชญากรรมที่มีความรุนแรง ความร่วมมือดังกล่าวนี้รวมถึงการแลกเปลี่ยนอัตลักษณ์บุคคลทางพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ลายนิ้วมือ และข้อมูลของผู้โดยสารสายการบิน
-จะมีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของอังกฤษและอียู แต่หลังการแยกตัวออกจากอียูแล้ว อังกฤษจะไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักงานตำรวจสหภาพยุโรป “ยูโรโปล” (Europol) และอัยการสหภาพยุโรป “ยูโรจัสท์” (Eurojust)ไปด้วย
ข้อมูลอ้างอิง
In Bullet Points: The Key Terms of the Brexit Deal
ข่าวที่เกี่ยวข้อง