ฝรั่งเศสเตือนภัยขั้นสูงสุด-เพิ่มทหารคุ้มกัน หลังเหตุ “ฆ่าตัดคอ” เมืองนีซ

29 ต.ค. 2563 | 23:27 น.

ปธน.ฝรั่งเศสประกาศยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด และจะเพิ่มกำลังทหารจาก 3,000 นาย เป็น 7,000 นาย เพื่อดูแลสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่นสถานที่ทางศาสนาและโรงเรียน โดยระบุพร้อมปกป้องประชาชนจาก ““การก่อการร้ายของอิสลาม”

 

นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส เดินทางไปยัง โบสถ์นอเทรอดามในเมืองนีซ วานนี้ (29 ต.ค. ) ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายใช้มีดก่อเหตุจนมีผู้เสียชีวิต 3 คน คนแรกเป็นหญิงอายุ 70 ปีที่กำลังสวดมนต์อยู่ในโบสถ์ รายที่สองเป็นผู้ดูแลโบถส์วัย 55 ปี ส่วนรายสุดท้ายเป็นหญิงอายุประมาณ 30 ปีที่ได้รับบาดเจ็บและวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุได้ แต่สุดท้ายไปเสียชีวิตที่คาเฟ่บริเวณใกล้เคียง

นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

ในการแถลงข่าว ณ จุดเกิดเหตุ ปธน.ฝรั่งเศสเปิดเผยว่า จะมีการเพิ่มกำลังทหารจาก 3,000 นาย เป็น 7,000 นาย เพื่อดูแลสถานที่สำคัญ ๆ เช่น สถานที่ทางศาสนาและโรงเรียน ทั้งนี้ เขาขอยืนยันว่า คนในประเทศฝรั่งเศสมีสิทธิ์เลือกนับถือศาสนาได้อย่างอิสระ สามารถเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่วันนี้คนฝรั่งเศสขอยืนเคียงข้างเพื่อนร่วมชาติชาวคาทอลิก

 

นอกจากนี้ นายมาครงยังกล่าวกับชาวเมืองนีซที่กำลังเจ็บปวดจากสิ่งที่เขาเรียกว่า “การก่อการร้ายของอิสลาม” ว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ชาวเมืองต้องเผชิญหน้ากับการก่อการร้าย และคนทั้งประเทศขอส่งกำลังใจให้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝรั่งเศสช็อก!คนร้ายใช้มีดแทงดับ 3 ศพในเมืองนีซ

สินค้าฝรั่งเศสถูกบอยคอต โลกมุสลิมไม่ปลื้มคอมเมนท์"มาครง"

 

“ผมขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในความสำคัญของสิทธิเสรีภาพ หากมีการก่อเหตุขึ้นอีกครั้ง ขอให้รู้ว่าเป็นเพราะคุณค่าในเสรีภาพของชาวฝรั่งเศส ที่มีอิสระด้านความเชื่อ และจะไม่ยินยอมจำนนต่อความหวาดกลัวใด ๆ”
 

ด้านนาย ฌ็อง กัสแต็กซ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาฝรั่งเศส ให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะตอบโต้อย่างเฉียบขาดและรวดเร็วเพื่อควบคุมสถานการณ์ พร้อมทั้งประกาศยกระดับการระวังภัยด้านความมั่นคงของประเทศสู่ระดับฉุกเฉิน กล่าวคือ การเฝ้าระวังในขั้นสูงสุดในกรณีเกิดภัยร้ายแรง หรือทันที่เกิดเหตุโจมตีในฝรั่งเศส สำหรับคนร้ายซึ่งเป็นชายชาวตูนิเซียวัย 22 ปีนั้น ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ชื่อนายบราฮิม เขาได้รับบาดเจ็บจากการถูกควบคุมตัวของตำรวจ และอยู่ระหว่างการถูกรักษาตัวในโรงพยาบาล

 

ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นของฝรั่งเศสระบุว่า ผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญในโบสถ์นอเทรอดามในเมืองนีซเช้าวานนี้ (เวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 29 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) เป็นชาวตูนีเซียวัย 22 ปี ที่เข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายเมื่อต้นเดือนต.ค. แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงข้อมูลต่าง ๆ เนื่องจากมีเอกสารประจำตัวเพียงฉบับเดียวจากกาชาดของประเทศอิตาลี ที่ซึ่งเชื่อว่าเขามาถึงเป็นแห่งแรกในยุโรป ก่อนจะได้รับคำสั่งให้เดินทางออกจากประเทศ

 

ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับเหตุการณ์ก่อความรุนแรงโดยชาวมุสลิม ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ ได้เกิดเหตุคดีฆ่าตัดคอครูชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งในกรุงปารีสโดยชาวมุสลิมที่ไม่พอใจกรณีที่ครูคนดังกล่าวได้นำภาพการ์ตูนศาสดามูฮัมหมัดมาประกอบการเรียนการสอน แต่หลังจากที่ผู้นำฝรั่งเศสออกมายกย่องการแสดงออกซึ่งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของคุณครูท่านนั้นและประกาศจะใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามมุสลิมหัวรุนแรง นั่นก็ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากนานาประเทศมุสลิมทั่วโลกและมีการบอยคอยต่อต้านสินค้าฝรั่งเศสในหลายประเทศมุสลิม กระทั่งล่าสุดได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญที่ผู้ก่อเหตุเป็นชาวมุสลิมอีกครั้งที่โบสถ์นอเทรอดามในเมืองนีซเมื่อเช้าวันที่ 29 ต.ค. สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ฝรั่งเศสอาจต้องพบกับเหตุก่อการร้ายเป็นลูกโซ่ เพราะหลังเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมในโบสถ์นอเทรอดามเมืองนีซได้เพียง 2 ชั่วโมงเศษ ๆ  ต่อมาเวลาราว 11.15 น. ได้มีชายใช้ปืนเป็นอาวุธ ตะโกนถ้อยคำภาษาอาหรับมีความหมายว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่ที่สุด ก่อเหตุในเมืองอาวินยง ซึ่งไม่ไกลจากเมืองนีซ ทำให้ถูกวิสามัญหลังคนร้ายไม่ยอมวางอาวุธ และใช้ปืนยิงใส่ตำรวจก่อน

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เจ้าหน้าที่ยามคนหนึ่งประจำสถานทูตฝรั่งเศส ถูกคนร้ายใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายถูกจับกุม

 

ด้านปฏิกิริยาจากนานาชาติเกี่ยวกับเรื่องนี้  นายกรัฐมนตรีอันเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี นายเดวิด-มาเรีย แซสโซลี ประธานรัฐสภาแห่งยุโรป นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ ได้ทวีตข้อความประณามการใช้ความรุนที่เกิดขึ้นในเมืองนีซ แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และให้คำมั่นจะยืนหยัดเคียงข้างรัฐบาลฝรั่งเศสในการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้าย พร้อมกันนี้ ยังระบุว่าคนทั่วทั้งยุโรป ต่างรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งผู้นำชาติมุสลิมอย่างกาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน และตุรกีที่มีความขัดแย้งในประเด็นทางศาสนากับฝรั่งเศส ก็ยังออกมาประณามการก่อเหตุร้ายในฝรั่งเศส ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ