จีนมัด“ฮ่องกง-มาเก๊า” ยึด“หนึ่งประเทศสองระบบ”

24 พ.ค. 2563 | 06:27 น.

“จีน”ย้ำหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ไม่เปลี่ยนแปลง ให้ชาวฮ่องกงบริหาร “ฮ่องกง” และให้ชาวมาเก๊าบริหาร”มาเก๊า” ต้านการแทรกแซงจากต่างชาติ

วันนี้ (24 พ.ค.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรัฐบาลจีนจะปฏิบัติตามหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” เพื่อให้ชาวฮ่องกงบริหารฮ่องกง และให้ชาวมาเก๊าบริหารมาเก๊า ภายใต้ระบบกฎหมายและกลไกปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศในเขตบริหารพิเศษให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

1.สืบเนื่องมาจากรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลจีน ที่ได้ยื่นให้ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ได้พิจารณา เมื่อวันที่ 22 พ.ค.63 โดยระบุว่า รัฐบาลจีนจะปฏิบัติตามหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” เพื่อให้ชาวฮ่องกงบริหารฮ่องกงและให้ชาวมาเก๊าบริหารมาเก๊า โดยให้ความสำคัญกับอำนาจบริหารปกครองตนเองในระดับสูง ภายใต้ระบบกฎหมายและกลไกปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศในเขตบริหารพิเศษให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ การปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ระบอบบริหารปกครองของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษ เพื่อสนับสนุนฮ่องกงและมาเก๊าในการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น และสอดคล้องกับสถานการณ์การพัฒนาประเทศ อันจะนำไปสู่การสร้างความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพในระยะยาวของฮ่องกง 

2.หลักการพื้นฐานที่ต้องเข้าใจและปฏิบัติตาม ได้แก่ ประการแรก ปกป้องความมั่นคงของชาติอย่างเด็ดขาด (to resolutely safeguard national security) 

ประการที่สอง ยึดมั่นและปรับปรุงระบบ "หนึ่งประเทศสองระบบ" (  to uphold and improve the "one country, two systems" system) 
 

ประการที่สาม ยืนยันในการปกครองฮ่องกงตามกฎหมาย ( to insist on governing Hong Kong according to law) 

ประการที่สี่ ต่อต้านการแทรกแซงจากต่างประเทศอย่างถูกต้อง ( to resolutely oppose foreign interference) 

และประการที่ห้า ต้องปกป้องสิทธิตามกฎหมายและผลประโยชน์ของชาวฮ่องกงอย่างมีประสิทธิภาพ (  we must effectively protect the legitimate rights and interests of Hong Kong residents)  ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าหลักการ "หนึ่งประเทศสองระบบ" จะไม่เปลี่ยนแปลง

3.ข้อสังเกต ในรายงานฯ ดังกล่าวยังได้ระบุถึงนโยบายต่อไต้หวัน ของจีนแผ่นดินใหญ่ว่า ต้องกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันให้ดียิ่งขึ้น โดยส่งเสริมการพัฒนาอย่างประสานงานกันระหว่างสองฝั่ง ด้วยการเสริมสร้างกลไก นโยบายและมาตรการเพื่อการประกันสิทธิประโยชน์ของพี่น้องร่วมชาติชาวไต้หวัน รวมทั้งการร่วมแรงร่วมใจกับพี่น้องร่วมชาติชาวไต้หวันคัดค้านการแบ่งไต้หวันออกจากประเทศ และส่งเสริมการรวมประเทศเป็นเอกภาพ ตลอดจนร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตอันดีงามของการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ 

บทสรุป ในรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง แถลงต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ระบุว่า จีนจะรักษาระบบระหว่างประเทศที่ถือสหประชาชาติเป็นแกนนำ และความเป็นระเบียบระหว่างประเทศที่ถือกฎหมายระหว่างประเทศเป็นพื้นฐาน เพื่อผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ( to building a human community with a shared future) 

โดยจีนจะยืนหยัดหนทางการพัฒนาอย่างสันติอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ต่อไป ในการขยายและกระชับความร่วมมืออย่างฉันมิตรกับนานาประเทศ โดยจีนจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของโลกอย่างต่อเนื่อง 

ดังนั้น การปฏิบัติตามหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” เพื่อให้ชาวฮ่องกงบริหารฮ่องกง (Hong Kong people ruling Hong Kong) และให้ชาวมาเก๊าบริหารมาเก๊า จึงเป็นประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติประจำปีของจีนในปีนี้