'โคโรนา'พ่นพิษหน้ากากอนามัยจ่อขาด

28 ม.ค. 2563 | 03:15 น.

'โคโรนา'พ่นพิษหน้ากากอนามัยจ่อขาด หลังจีนผลิตสินค้าไม่ทันจำหน่าย

   

ผลของ PM2.5 และ ไวรัสโคโรนา ทำให้หน้ากากอนามัยกำลังขาดตลาดในประเทศจีน ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศไทยแล้วในขณะนี้  

  

ล่าสุดแหล่งข่าวจากผู้นำเข้าหน้ากากอนามัยรายใหญ่ของไทยเปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า  หน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้กำลังขาดตลาด เนื่องจากหน้ากากอนามัยชนิดดังกล่าวต้องสั่งนำเข้ามาจำหน่าย  แต่จีน และ สิงคโปร์ที่เป็นผู้ผลิตสินค้าผลิตไม่ทัน 

  

“ตอนนี้ที่นำเข้ามาไม่มีอยู่ในสต๊อกของบริษัท มีแต่สินค้าที่กระจายอยู่ตามร้านที่สั่งไปก่อนหน้านี้ กับสต๊อกของโรงพยาบาล"

ข่าวเด่นฐานเศรษฐกิจ

● ย้อนรอย10โรคระบาดป่วนโลกเสียชีวิตกว่า50ล้านคน(มีคลิป)

● คนอู่ฮั่น ตะโกนลั่นเมือง "อู่ฮั่นสู้ตาย"(มีคลิป)

● จี้แลกรถเก่า ดีเซล4ล้านคัน ลดฝุ่นPM2.5

   

ก่อนหน้านี้สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่า ร้านค้าออนไลน์ชื่อดังของจีนหลายราย ไม่ว่าจะเป็นเจดีดอตคอม (JD.com) เว็บไซต์เถาเป่า (Taobao)ในเครืออาลีบาบา และ เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ อีกหลายรายต้องพบกับภาวะสินค้าขาดสต๊อก ไม่สามารถส่งสินค้าตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

เว็บไซต์เถาเป่าระบุว่า กำลังเร่งสั่งหน้ากากอนามัยล็อตใหม่เข้าสต๊อก หลังจากที่ทำยอดจำหน่ายไปแล้ว 80 ล้านชิ้นภายในเวลาเพียง 2 วันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

  

ขณะที่เจดีดอตคอมเปิดเผยยอดขายหน้ากากอนามัยระหว่างวันที่ 19-22 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวนมากกว่า 126 ล้านชิ้น และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหา คือ สินค้ากำลังขาดสต๊อก สินค้าขายดีอื่นๆยังได้แก่ เจลล้างมือฆ่าเชื้อ ปรอทวัดไข้ ยารักษาหวัด และแว่นตาการแพทย์

 

'โคโรนา'พ่นพิษหน้ากากอนามัยจ่อขาด

   

ขณะที่บริษัท 3เอ็ม จากสหรัฐอเมริกา เผยว่ากำลังเพิ่มการผลิตเช่นกันและประสานงานกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายเพื่อสร้างความมั่นใจว่าสินค้าจะไม่ขาดสต๊อกและมีเพียงพอที่จะป้อนให้กับลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่   

  

ภาวะหน้ากากอนามัยขาดตลาดไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะภายในประเทศจีนที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เท่านั้น แต่ยังลามไปถึงฮ่องกงซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นประกาศมาตรการเฝ้าระวังขั้นสูงสุดเช่นกัน สื่อท้องถิ่นของฮ่องกงระบุว่า ร้านขายยาบางแห่งยืนยันหน้ากากอนามัยและยาฆ่าเชื้อขาดสต๊อค และถุงมือแพทย์ก็มียอดขายพุ่งสูงขึ้นมาก 

   

ส่วนทางการไต้หวันซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกหน้ากากอนามัย N95 รายใหญ่ของโลก สั่งระงับการส่งออกเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือน