เมื่อต้นปี 2020 ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ต้องเผชิญกับวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปจนเกิดคำว่า New normal รวมถึงเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ จนถึงกลางปี 2020 หลังจากควมคุมสถานการณ์โรคระบาดได้เศรษฐกิจจึงได้เริ่มฟื้นตัว ประชาชนเริ่มปรับตัวเพื่อรับกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ รวมถึงเหล่าผู้ประกอบการเริ่มกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง
แต่เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน เมื่อ COVID-19 ระลอกใหม่ได้กลับมาอีกครั้งจากจุดเริ่มต้นของการพบผู้ติดเชื้อที่สมุทรสาครจนถึงวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมจำนวนสูงถึง 9,331 ราย (อ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 6 ม.ค. 64) จากสถานการณ์ดังกล่าวได้ทำให้เกิดกระแสมากมายบนโซเชียล
วันนี้ Wisesight ได้ใช้เครื่องมือ ZOCIAL EYE เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อคนแรกในวันที่ 18 ธ.ค. 63 ถึง 5 ม.ค. 64 ตามมาดูกันว่า 10 อันดับที่ชาวโซเชียลพูดถึงมากที่สุด เกี่ยวกับ COVID-19 มีประเด็นอะไรกันบ้าง
อันดับ 1 มาตรการรับมือกับ COVID-19 ของรัฐบาล (810,985 เอ็นเกจเมนต์) เมื่อเกิดวิกฤตแบบนี้ ประชาชนหลายคนก็คาดหวังว่าอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือและรับมือกับสถานการณ์ให้เร็วที่สุด รวมถึงอยากให้เข้าไปเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้ผลกระทบให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งเสียงของชาวโซเชียลก็แบ่งออกเป็น 2 เสียงใหญ่ๆ คือ รัฐบาลได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือได้อย่างที่ควรจะเป็น และวิธีที่รัฐบาลใช้ยังไม่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากพอ
อันดับ 2 รู้สึกเครียด ซึมเศร้า (788,656 เอ็นเกจเมนต์) เมื่อเกิดการระบาดของ COVID-19 อีกครั้ง ก็เกิดผลกระทบหลายอย่างตามมา โดยเฉพาะเรื่องของสภาพจิตใจ หลายคนรู้สึกเบื่อ เศร้า เซ็ง เมื่อต้องอยู่แต่ในบ้าน หรือเจอปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ ก็ทำให้หลายคนเกิดความเครียดเรื่องความเป็นอยู่ และรายได้ที่ลดลง
อันดับ 3 ทุกคนต้องดูแลตัวเองไปก่อน ( 735,791 เอ็นเกจเมนต์) COVID-19 ระลอกใหม่นี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก ประชาชนหลายคนเองก็มีความตื่นกลัว จนเลือกที่จะเลือกดูแลตัวเองให้ดีที่สุด การ์ดอย่าตกในช่วงนี้ไปก่อน น่าจะดีกว่ารอรับการช่วยเหลือจากใครสักคน
อันดับ 4 ธุรกิจปิดกิจการ(485,866 เอ็นเกจเมนต์) การล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ตามมาตรการของรัฐ ส่งผลดีในแง่ควบคุมโรค แต่ก็ทำให้ผู้ประกอบการ และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะต้องรับมือกับสภาวะรายได้ลดลงอย่างหนัก บางธุรกิจมีความจำเป็นต้องหยุดกิจการชั่วคราว รวมถึงบางรายก็ไม่สามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจถึงขั้นปิดกิจการ ส่งผลกระทบให้เกิดการเลิกจ้างพนักงาน
อันดับ 5 อยากเที่ยว แต่ก็ต้องกักตัวอยู่บ้าน (467,394 เอ็นเกจเมนต์) ช่วงที่ COVID-19 เข้ามา เป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาว แต่ดูเหมือนว่าปีนี้จะไม่ได้ออกไปเคาท์ดาวน์ได้อย่างสบายใจอีกแล้ว แม้จะอยากออกไปเที่ยวแค่ไหน แต่ชาวโซเชียลหลายคนเลือกที่จะอยู่บ้าน กินข้าวกับครอบครัวไปก่อน เพื่อช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคนี้
อันดับ 6 ตกงาน (411,233 เอ็นเกจเมนต์) เมื่อต้นปีก็เกิดความบอบช้ำอย่างหนัก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่หลายธุรกิจจะสามารถประคับประคองให้อยู่รอดได้ เมื่อผ่านวิกฤตได้ไม่นานก็ต้องมาเจอซ้ำอีก ทำให้บางธุรกิจรับมือไม่ไหวอีกต่อไป จนผลให้พนักงานหลายคนถูกลดเงินเดือน และบางคนอยู่ในสภาวะตกงาน รวมถึงธุรกิจบางธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเช่น Event Organizer ที่ต้องถูกยกเลิกงาน หรือเลื่อนการจัดงานออกไปทำให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ
อันดับ 7 หากล็อกดาวน์ ควรมีมาตรการอื่นรองรับ (343,295 เอ็นเกจเมนต์)มีการถกเถียงในประเด็นจะล็อกดาวน์หรือไม่ล็อกดาวน์ดี พบว่า หลายคนก็มองว่าเมื่อจำนวนคนติดเชื้อสูงขึ้นทุกวัน มาตรการนี้ก็น่าจะช่วยได้ จะล็อกดาวน์หรือไม่ล็อกดาวน์ก็ควรพูดกันอย่างตรงๆ ประชาชนจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงถ้าจะล็อกดาวน์อย่างจริงจัง รัฐควรมีมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมด้วย เพราะการล็อกดาวน์แม้จะช่วยหยุดเชื้อได้ แต่ก็หยุดและแช่แข็งเศรษฐกิจไปด้วย หลายคนต้องขาดรายได้ ไม่มีเงินพอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
อันดับ 8 ความกังวล และกลัวการแพร่ระบาดของ COVID-19 ( 155,599 เอ็นเกจเมนต์) แม้จะมีหลายหน่วยงานออกมาแจ้งข่าวและสถานการณ์ที่ประชาชนควรรู้ รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 แต่ในครั้งนี้เชื้อได้แพร่กันอย่างรวดเร็วกว่าต้นปี เลยส่งผลให้ประชาชนมีความกังวลกลัวว่าจะติด COVID-19 จนเกิดความเครียดตามมา
อันดับ 9 หน้ากากอนามัยราคาแพงขึ้น ( 106,790 เอ็นเกจเมนต์) สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการป้องกันเชื้อ COVID-19 ก็คือ “หน้ากากอนามัย” เมื่อตอนต้นปีที่มีการระบาด เราจะเห็นว่าหน้ากากอนามัยขาดตลาด พ่อค้าแม่ค้าบางรายฉวยโอกาสขายเกินราคา แต่สำหรับการระบาดระลอกใหม่ครั้งนี้ หน้ากากอนามัยสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด และได้มีมาตรการจากทางหน่วยงานรัฐออกมาช่วยควบคุมราคาหน้ากากอนามัยไม่ให้ขายเกินราคา
อันดับ 10 ปรับตัวกับ Work from Home ได้ (98,827 เอ็นเกจเมนต์) จากการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ หลายบริษัทฯ กลับมาประกาศนโยบายให้ทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home กันอีกครั้งเพื่อยับยั้งการระบาดของโรค เมื่อต้นปีที่แล้วหลายองค์กรต่างตื่นตัวและปรับตัวอย่างหนักกับการทำงานจากบ้านทุกวันเพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยรับมือมาก่อน แต่ในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป
จากข้อมูลนี้ทำให้เราเห็นได้ว่าชาวโซเชียลกำลังคิดเห็นเรื่อง COVID-19 กันอย่างไรซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่กำลังสะท้อนให้เราเห็นว่าการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่มีผลกระทบต่อรายได้ในการดำรงชีวิต การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการที่กำลังต้องเผชิญกับปัญหาที่แตกต่างกัน และมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่กำลังรอคอยมาตรการเยียวยาจากภาครัฐ